พาคนรักขนมหวานแบบไทย มาลองทำ “วุ้นใบเตยสาคูกะทิสด” เมนูของหวานที่รวมตัวความอร่อยไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวุ้นใบเตย สาคู และกะทิสด
ที่เมื่อมาผสมผสานอยู่ในชามเดียวกันแล้ว แค่เพียงได้ลิ้มรสสัมผัสแค่หนึ่งคำ บอกเลยว่าเป็นการผสมผสานที่อร่อยลงตัว มีครบทั้งรสสัมผัสนุ่มหนึบ กรอบ และรสชาติหวานมันอร่อย กลมกล่อมละมุนลิ้นสุดๆ
และบอกเลยว่าขั้นตอนการทำวุ้นใบเตยสาคูกะทิสด ไม่ยากอย่างที่คิด บทความนี้พร้อมสูตรลับความอร่อยแบบง่ายๆ ที่ถ้าทำตามแบบนี้ อร่อยชัวร์! มาจดสูตร พร้อมลงมือทำตามกันเลย
สูตรวุ้นใบเตยสาคูกะทิสด
สำหรับวุ้นใบเตยสาคูกะทิสด ในสูตรนี้เราจะแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนใหญ่ในการทำ นั่นคือขั้นตอนการทำส่วนวุ้นใบเตย ส่วนสาคู ส่วนกะทิสด และการประกอบร่างรวมตัวกัน บอกเลยว่าถึงแม้จะมีหลายขั้นตอน แต่ไม่ยากอย่างที่คิด
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม
ส่วนผสม : ส่วนวุ้นใบเตย
- น้ำเปล่า 800 มล.
- ผงวุ้นตรานางเงือก 10 กรัม
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
- ใบเตยสด 8 ใบ
- น้ำเปล่า (สำหรับทำน้ำใบเตย) 200 มล.
- ถาด ขนาด 10×10
ส่วนผสม : ส่วนสาคู
- สาคู สีขาวหรือสีเขียว 120 กรัม
- น้ำเปล่า 1,000 มล.
ส่วนผสม : ส่วนกะทิ
- หัวกะทิ 500 มล.
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 150 กรัม
ขั้นตอนทำวุ้นใบเตยสาคูกะทิสด
วิธีทำ : ส่วนวุ้นใบเตย
- เริ่มขั้นตอนแรก เตรียมชามผสมใส่น้ำเปล่า 800 มล. ตามด้วยผงวุ้นตรานางเงือก 10 กรัม คนให้ละลายกับน้ำ ก่อนจะพักทิ้งไว้ 10 นาทีเพื่อให้ผงวุ้นอิ่มน้ำ
- ระหว่างรอมาทำน้ำใบเตย โดยใส่ใบเตยสดลงในโถปั่น ก่อนตามด้วยน้ำเปล่า 200 มล. ปั่นให้ใบเตยละเอียด ก่อนจะนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง จนได้น้ำใบเตยสีเขียวสด เตรียมพร้อมมาทำในขั้นตอนถัดไป
- จากนั้นเมื่อผงวุ้นแช่ครบเวลาแล้ว นำมาเมใส่หม้อขึ้นตั้งไฟกลาง ระหว่างนี้ให้คนเรื่อยๆ เพื่อให้ผงวุ้นละลายดี เมื่อผงวุ้นละลายแล้วจึงใส่น้ำตาลทราย พร้อมคนให้ละลายจนหมด จากนั้นจึงเบาไฟให้เหลือแค่ไฟอ่อน
- ใส่น้ำใบเตยลงไปผสม พร้อมคนให้เข้ากัน จากนั้นต้มต่อจนน้ำเดือดอีกครั้ง จึงปิดไฟยกลงจากเตา
- นำน้ำวุ้นใบเตยตักเทใส่ถาด โดยระหว่างตักแนะนำให้ใช้ผ้าขาวบางกรองหนึ่งชั้น เพื่อให้ได้น้ำวุ้นใบเตยที่ใสไม่มีเศษน้ำใบเตยเจือปน
- เมื่อเทจนเต็มถาดแล้ว พักทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องรอให้วุ้นใบเตยเซ็ตตัว
- เมื่อวุ้นใบเตยที่เซ็ตตัวแล้ว มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดตามใจชอบ
วิธีทำ : ส่วนกะทิ
- ตั้งหม้อเตรียมทำส่วนกะทิ จากนั้นให้ใส่หัวกะทิ 500 มล. ลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย 120 กรัม เกลือป่น ½ ช้อนชา แนะนำให้ใช้ไฟกลาง (ไม่แนะนำให้ใช้ไฟแรง เพราะอาจจะทำให้กะทิแตกมันได้)
- ระหว่างต้มค่อยๆ คนน้ำกะทิไปเรื่อยๆ เมื่อน้ำกะทิเริ่มร้อน จึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป ก่อนจะคนผสมให้เข้ากันอีกรอบ
- เมื่อน้ำกะทิเดือดอีกครั้ง จึงปิดไฟยกลงจากเตา ก่อนจะพักทิ้งไว้รอให้กะทิเย็นตัวลง
วิธีทำ : ส่วนสาคู
- เริ่มทำส่วนสาคู โดยนำสาคูมาเคาะทำความสะอาดพวกเศษผงออกก่อน
- จากนั้นตั้งไฟด้วยน้ำเปล่า 1,000 มล. เมื่อน้ำเดือดจึงใส่สาคูลงไปต้ม
- ระหว่างรอต้มสาคู ให้คนไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้สาคูเม็ดติดกัน ใช้ระยะเวลาในการต้มประมาณ 15 นาที เมื่อสาคูสุก โดยสังเกตได้จากรอบนอกตัวเม็ดสาคูจะใส จนเห็นจุดสีขาวด้านใน จึงปิดไฟยกลงจากเตา
- จากนั้นนำสาคูต้มไปตักเทใส่กะชอนตาถี่ เพื่อนำน้ำออก ก่อนจะล้างสาคูด้วยน้ำเย็นจัดอีกครั้ง แล้วใช้กระชอนตาถี่นำน้ำออกเช่นเดิม
- จากนั้นจะได้สาคูสีเขียวหรือขาวน่าทาน พร้อมนำไปใช้ในขั้นตอนถัดไป
วิธีทำ : ประกอบร่างวุ้นใบเตยสาคูกะทิสด
- นำวุ้นใบเตย สาคู และน้ำกะทิที่เย็นสนิทแล้วมาใส่ชามผสมรวมเข้าด้วยกัน
- ก่อนจะนำทั้งหมดเข้าแช่ตู้เย็น ก่อนนำเสิร์ฟ จะให้ความอร่อยสดชื่นเพิ่มมากยิ่งขึ้น
สูตรลับ วุ้นใบเตยสาคูกะทิสด ทำแบบนี้อร่อยชัวร์
- เลือกใช้ผงวุ้นที่เหมาะสม
สำหรับการทำวุ้นใบเตย เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในวุ้นใบเตยสาคูกะทิสด ตัววุ้นใบเตยควรจะมีทั้งรสสัมผัสที่นนุ่มหนึบ แต่ก็แฝงความกรอบสไตล์วุ้นเอาไว้เบาๆ และตัววุ้นจะต้องนำไปประกอบร่างรวมตัวกับส่วนต่างๆ ดังนั้นแล้วควรเลือกใช้ “ผงวุ้น” ที่มีระดับความแข็งกำลังดี
แนะนำให้เลือกใช้ ผงวุ้นตรานางเงือก ซองขอบสีน้ำเงิน ที่ให้ความแข็งของวุ้นระดับปานกลาง หรือซองขอบเขียว ที่ให้ระดับความแข็งของวุ้นที่มาก เพื่อให้ตัววุ้นใบเตยยังคงรูป ไม่นิ่มเละ แต่ยังให้รสสัมผัสที่เข้าคู่ได้กับส่วนผสมในส่วนอื่นๆ ได้ดี
- ผงวุ้นต้องละลายจนหมด
วุ้นที่ดี วุ้นที่อร่อย นอกจากรสสัมผัสจะต้องนุ่มหนึบกรอบแล้ว ขั้นตอนที่ควรต้องเลือกให้ความสำคัญมากๆ เลยก็คือขั้นตอนแรกของการทำวุ้น นั่นคือการ “แช่ผงวุ้น” ในน้ำ ควรทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ผงวุ้นละลาย อิ่มน้ำ
จะทำให้ตัววุ้นหลังจากที่เราทำเสร็จ ไม่เกิดการคายน้ำในภายหลัง ดังนั้นเมื่อนำไปรวมตัวประกอบร่างกับสาคู และกะทิสด ตัววุ้นของเราจะยังคงความสวยงาม และให้รสชาติที่อร่อยได้นานมากยิ่งขึ้น
- น้ำใบเตย ต้องปั่นละเอียด
สำหรับ “น้ำใบเตย” ที่ใช้ในการผสมลงไปเพื่อทำวุ้นใบเตยนั้น เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ควรให้ความสำคัญ เพราะต้อง ปั่นใบเตยให้ละเอียด จนสามารถนำไปกรองจนได้น้ำใบเตยสีเขียวใส โดยขั้นตอนการกรองแนะนำให้ใช้กระชอนตาถี่ หรือผ้าขาวบางในการกรองกากใบเตย และน้ำใบเตย จะทำให้เราได้วุ้นใบเตยที่น่าทานมากยิ่งขึ้น
- เพิ่มกลิ่นหอมให้น้ำกะทิ
ใครที่อยากเพิ่มความน่ารับประทานให้กับวุ้นใบเตยกะทิสดของเรามากขึ้น เรื่องของกลิ่นหอมก็ห้ามพลาด เพราะจะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าทานได้มากขึ้นอีกระดับ
โดยเฉพาะตัว “กะทิ” ที่เราสามารถเพิ่มกลิ่นหอมได้ด้วยการใช้ “ใบเตย” 2-3 ใบนำมามัดรวมกัน ก่อนจะนำลงไปต้มพร้อมกับตัวน้ำกะทิ จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับน้ำกะทิของเรา เมื่อนำมาผสมรวมตัวกัน จะทำให้วุ้นใบเตยสาคูกะทิสดของเราน่าทานมากยิ่งขึ้น
- สาคูต้องเม็ดสวย ไม่เป็นก้อน
“สาคู” แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเอกของเมนูนี้ แต่สาคูก็เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่เมื่อนำมาต้มจนสุก และนำมาเตรียมทำขนมต่อแล้วนั้น มักจะชอบจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ลดความน่าทานลงไป
เคล็ดลับการต้มให้สาคูเรียงตัวเป็นเม็ดสวย ไม่จับตัวเป็นก้อน ต้องค่อยๆ ตักเม็ดสาคูใส่หม้อทีละนิด โดยที่น้ำต้มสาคูจะต้องเดือดอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับต้องคนน้ำต้มเรื่อยๆ เพื่อให้เม็ดสาคูกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน หรือเมื่อน้ำเดือดจึงค่อยๆ ทยอยใส่เม็ดสาคูเซ็ตใหม่ พร้อมกับคนน้ำต้มไปเรื่อย จนกว่าจะต้มหมด จะทำให้ได้เม็ดสาคูสุกใส
เมื่อนำมาทำขนมต่อ เม็ดจะเรียงตัวสวย ไม่จับตัวเป็นก้อน เพิ่มความอร่อย น่าทานมากขึ้นอีกระดับ
- มะพร้าวอ่อน เพิ่มความน่ารับประทาน
อีกหนึ่งส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ของเมนูนี้ แม้จะไม่มีอยู่ในชื่อเมนู ก็ต้องยกให้ “มะพร้าวอ่อน” ที่จะต้องนำไปใส่ต้มผสมผสานในขั้นตอนการทำน้ำกะทิ เพราะมะพร้าวอ่อนจะช่วยเพิ่มให้น้ำกะทิ มีความละมุนละไมมากขึ้น และเมื่อนำมาทานรวมกัน มะพร้าวอ่อนจะให้รสสัมผัสที่อร่อยกรุบกรอบ ทานแล้วฟินเว่อร์
- แช่เย็น เพิ่มความอร่อยก่อนทาน
สำหรับเมนู วุ้นใบเตยสาคูกะทิสด บอกเลยว่า ก่อนนำเสิร์ฟ หรือก่อนนำขาย ควรจะแช่เย็น จะช่วยเพิ่มความอร่อยก่อนทานได้มากยิ่งขึ้น
วุ้นใบเตยสาคูกะทิสด เมนูหวานกลมกล่อมสดชื่น ทำง่ายอร่อยชัวร์
การทำ “วุ้นใบเตยสาคูกะทิสด” ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แม้จะมีหลายวัตถุดิบ หลายขั้นตอน และเหมือนจะใช้เวลาในการทำ แต่บอกเลยว่าถ้าได้ลองทำทานแล้ว จะรู้สึกเลยว่ามันคุ้มค่าในการลงมือทำ
เพราะเราจะได้ลองทำขนมที่อร่อยครบรสชาติ ครบรสสัมผัส ทั้งหวาน มัน กรอบ หอมเต็มคำ และเชื่อว่าใครที่ได้ลองลิ้มรสจะต้องหลงรักแน่นอน