MM-cover-บทความ บัวลอยไข่เค็ม มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง_ เผยเคล็ดลับดั้งเดิม

บัวลอยไข่เค็ม มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง? เผยเคล็ดลับดั้งเดิม

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

“บัวลอย” อีกหนึ่งเมนูของหวานที่อร่อย สามารถทำได้ไม่ยาก หารับประทานได้ง่าย และยังสามารถนำปรับหาสูตรใหม่ ๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น บัวลอยเย็น บัวลอยนมสด หรือบัวลอยไส้ทะลักต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้คนได้ลองชิมรสชาติที่หลากหลายมากขึ้น บัวลอยจึงเป็นอีกหนึ่งเมนูของหวานที่คนนิยมรับประทานกันเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

หากพูดถึงเมนูบัวลอยที่อร่อย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก็ต้องนึกถึง “บัวลอยไข่เค็ม” ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้บัวลอยปกติ มีความหอมหวานมัน จากลูกเล่นเพิ่มเติมโดยการเติมไข่แดงของไข่เค็มลงในน้ำกะทิ ทำให้ได้รสสัมผัสที่แปลกใหม่จากไข่เค็มในน้ำกะทิ ไม่หวาน และไม่เลี่ยนจนเกินไป รสชาติแปลกใหม่จนใครได้ลองก็ต้องติดใจแน่นอน 

วิธีทำบัวลอยไข่เค็ม เผยเคล็ดลับแบบดั้งเดิม

วิธีทำบัวลอยไข่เค็ม เผยเคล็ดลับแบบดั้งเดิม

“บัวลอยไข่เค็ม” เป็นเมนูของหวานที่อร่อย และมีวิธีการทำที่ไม่ยาก โดยวิธีการทำจะคล้าย ๆ กับสูตรบัวลอยทั่วไป แป้งบัวลอยจะใช้แป้งข้าวเหนียวนวดกับฟักทองนึ่ง หรือน้ำใบเตย และกะทิจะใส่ไส้ไข่แดงเค็มหั่นชิ้นเล็ก ๆ โดยเราสามารถเพิ่มเผือกนึ่ง มะพร้าวอ่อน เมล็ดข้าวโพดต้ม หรือของเพิ่มเติมอื่น ๆ ลงไปด้วยได้เช่นกัน

ส่วนผสมบัวลอย

  • ฟักทองสุก 1 ถ้วย
  • เผือกนึ่งสุก 1 ถ้วย
  • ใบเตย
  • แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
  • แป้งสาคู 1/2 ถ้วย
  • น้ำเปล่า

ส่วนผสมไข่หวาน

  • ไข่เป็ด (ใช้แต่ไข่แดง)
  • เกลือชมพู
  • น้ำเปล่า

ส่วนผสมน้ำกะทิ

  • กะทิ 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา

ขั้นตอนและวิธีทำบัวลอยไข่หวาน

ขั้นตอนและวิธีทำบัวลอยไข่หวาน

การทำบัวลอยไข่เค็มนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน นั่นคือการทำบัวลอย ทำน้ำกะทิ และทำไข่เค็ม ซึ่งสำหรับใครที่มีเวลาในการทำที่ค่อนข้างจำกัดก็สามารถใช้เม็ดบัวลอยแบบสำเร็จรูป และน้ำกะทิแบบกล่องก็ได้เช่นเดียวกัน

ขั้นตอนการทำบัวลอย

  1. ขั้นตอนแรกให้เรานำเผือก และฟักทองไปนึ่งจนสุก
  2. จากนั้นให้นำแป้งข้าวเหนียว และแป้งสาคูมาร่อนผสมกัน จากนั้นแบ่งแป้งที่ผสมแล้วเป็น 4 ส่วนตามสีที่เราต้องการผสม
  3. เตรียมน้ำใบเตยหอมเข้มข้น ด้วยการหั่นใบเตยหอมเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปปั่นกับน้ำเปล่าเล็กน้อย ปั่นใบเตยหอมให้ละเอียด แล้วนำไปกรองเพื่อให้ได้น้ำใบเตย
  4. นำเผือกที่นึ่งสุกแล้วมาบดให้ละเอียด จากนั้นค่อย ๆ เทแป้งที่เตรียมไว้ใส่ลงไป นวดแป้งกับเนื้อเผือกให้เข้ากัน โดยสัดส่วนให้ใช้ 2:1 ยกตัวอย่างเช่น เนื้อเผือก 1 ถ้วย ให้ใช้แป้งผสม 1/2 ถ้วยโดยประมาณ 
  5. ในขณะนวดเนื้อเผือกกับแป้ง หากรู้สึกว่าแป้งแห้งไป สามารถเติมน้ำได้ทีละน้อย จนกว่าจะนวดได้ที่
  6. นำเนื้อฟักทอง มานวดเช่นเดียวกัน
  7. นำแป้งส่วนสุดท้ายมาผสมกับน้ำใบเตยหอม โดยค่อย ๆ เทน้ำใบเตยหอมลงไปในถ้วยแป้งที่เหลือ นวดแป้งกับน้ำใบเตยหอมให้เข้ากัน หากรู้สึกว่าแป้งแห้ง ให้เติมน้ำทีละน้อย จนกว่าจะนวดได้ที่เช่นเดียวกัน
  8. ปั้นแป้งที่นวดเสร็จแล้วเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเท่ากัน โรยแป้งมันบาง ๆ ให้ทั่ว เพื่อไม่ให้แป้งที่ปั้นแล้วติดกัน โดยปั้นแป้งสีเขียวแยกไว้ต่างหาก เนื่องจากแป้งสีเขียวเป็นเนื้อแป้งล้วน ๆ จำเป็นต้องใช้เวลาต้มให้นานกว่าแป้งสีอื่น 
  9. หลังจากปั้นแป้งทั้งหมดเสร็จแล้ว ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด และนำแป้งบัวลอยเผือก และฟักทองลงไปต้ม ในขณะต้มให้คนเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้เม็ดแป้งติดกัน ซึ่งถ้าเม็ดแป้งลอยขึ้นมาแสดงว่าสุกแล้ว
  10. นำกระชอนซ้อนเม็ดแป้งที่ลอยขึ้นมา ตักเม็ดแป้งใส่ในน้ำเย็นเพื่อน็อกไม่ให้เม็ดแป้งสุกจนเกินไป
  11. เมื่อต้มเม็ดแป้งสีต่าง ๆ สุกหมดแล้ว นำเม็ดแป้งสีเขียว และสีแดงลงไปต้ม ทำทุกขั้นตอนที่เหลือเช่นเดียวกัน

ขั้นตอนการทำไข่เค็ม

  1. ขั้นตอนแรกของการทำไข่แดงเค็ม ให้นำไข่เป็ดมาแยกเอาเฉพาะไข่แดง
  2. ใช้กรรไกรแต่งเปลือกให้เป็นในลักษณะเปลือกไข่ครึ่งใบให้เรียบ
  3. นำไข่แดงใส่กลับลงไปในเปลือกไข่ โดยโรยเกลือชมพูฟองละ 1/2 ช้อนชา และน้ำเปล่าเล็กน้อยพอให้เกลือละลาย
  4. หลังจากนั้นให้นำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากตื่นมานำให้ไปล้างน้ำสะอาดให้เรียบร้อย

ขั้นตอนการทำน้ำกะทิ

ขั้นตอนการทำน้ำกะทิ
  1. นำกะทิใส่หม้อตั้งไฟเพื่อทำให้ร้อน คนกะทิเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องให้กะทิเดือด หากมีเนื้อมะพร้าวให้ใส่เนื้อมะพร้าวลงไป ใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อม และเกลือลงไปในปริมาณที่เตรียมไว้
  2. เมื่อน้ำกะทิร้อนได้ที่ ให้นำเม็ดบัวลอยที่ลวกแล้วใส่ลงไป
  3. ตั้งหม้อขนมบัวลอยทิ้งไว้สักครู่ ปิดไฟยกลง
  4. ตักบัวลอยใส่ถ้วยพร้อมน้ำกะทิและไข่แดงเค็ม ใส่เผือกนึ่ง เมล็ดข้าวโพด และเนื้อมะพร้าวอ่อน เป็นอันเสร็จ และพร้อมรับประทานได้

บัวลอยไข่เค็ม เมนูบัวลอยแปลกใหม่ที่ต้องลอง

“บัวลอยไขเค็ม” อีกหนึ่งเมนูบัวลอยสุดแปลกใหม่ที่แนะนำให้ลอง ด้วยรสชาติที่อร่อย กลมกล่อม และด้วยรสชาติหวานของน้ำกะทิที่ตัดกับความมันของไข่เค็ม ทำให้ได้รสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป จึงสามารถนำมารับประทานได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ยังสามารถเพิ่มเครื่องเพิ่มเติมอย่างข้าวโพด มันม่วง เผือก หรือวัตถุดิบอื่น ๆ ลงไปด้วยก็ได้ เช่นกัน ทั้งทำง่ายทั้งอร่อย บอกได้เลยว่าห้ามพลาด

หากว่าใครอยากได้ความนุ่ม และกรอบอร่อยเพิ่มลงไป เราขอแนะนำ “ผงวุ้นตรานางเงือก” ที่สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเมนูคาวหรือวาน มาพร้อมกับปริมาณที่คุ้มค่า และยังหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย รับรองว่าเมนูบัวลอยไข่เค็มของคุณจะอร่อย และไม่เหมือนใครแน่นอน