เมื่อพูดถึงขนมไทย หลายคนคงคิดว่าทำยาก มีขั้นตอนเยอะ แถมต้องละเอียดอ่อน จนมองข้ามเมื่อต้องทำขนม แต่มีขนมไทยชนิดหนึ่งที่สามารถทำได้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ซึ่งนั่นคือ “ลูกชุบ” นั่นเอง
แต่ขนมไม่จำเป็นต้องมีสูตรที่ตายตัว เพราะสามารถปรับเปลี่ยนสูตรการทำได้ จึงมีการนำลูกชุบไปประยุกต์จนเป็น “วุ้นลูกชุบ” ที่มีความกรอบอร่อยละมุนลิ้น แถมยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น
ในบทความนี้ มาเปลี่ยนลูกชุบปกติให้อร่อย และเพิ่มเนื้อสัมผัสด้วยวุ้นให้อร่อยมากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณได้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากการทานลูกชุบธรรมดา ใครที่ชอบขนมไทยที่ดัดแปลงให้มีความแปลกใหม่ จะต้องรักขนมวุ้นลูกชุบอย่างแน่นอนค่ะ
4 ขั้นตอนทำวุ้นลูกชุบทำตามได้ง่ายๆ
วุ้นลูกชุบขั้นตอนการทำมีเพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น นั้นคือ
- การทำคือการทำไส้ถั่วกวน
- ทำตัววุ้นชุบ
- ปั้นลูกชุบ
- การทำฐานวุ้น
ถ้าใครที่คุ้ยเคยการทำลูกชุบอยู่แล้ว ขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามานั่นคือ การทำฐานวุ้นนั่นเอง ซึ่งขั้นตอนนี้ทุกคนจะต้องมีถ้วยสำหรับใส่ตัวฐานวุ้นเพื่อทำให้ทานง่ายขึ้น
ก่อนอื่นเตรียมอุปกรณ์ให้ครบ
- ไม้ปลายแหลม
- โฟมสำหรับปักไม้ลูกชุบ
- พู่กันสำหรับตกแต่งลุกชุบ
- ของตกแต่งต่างๆ
- ถ้วยสำหรับทำฐานวุ้น
- โฟมสำหรับปักลูกชุบ
เมื่อเตรียมอุปกรณ์ครบแล้ว ก็มาลงมือทำวุ้นลูกชุบกันเลย
ขั้นตอนที่ 1: ทำไส้ถั่วกวน
ส่วนผสมหลักของวุ้นลูกชุบจะเป็น “ถั่วเขียว”
ลูกชุบเป็นขนมไทยอยู่คู่กับเมืองไทยมายาวนาน เริ่มตั้งแต่สมัยอยุธยาที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวโปรตุเกส โดยในสมัยนั้น วัตถุดิบหลักตามสูตรดังเดิมคือ “อัลมอนด์” แต่ภายหลังก็มีการปรับเปลี่ยนสูตรไปเรื่อยๆ เพื่อให้หาวัตถุดิบได้ง่าย และให้รสชาติมีความเหมาะกับเมืองไทยมากขึ้นค่ะ
ส่วนผสมสำหรับทำไส้ถั่วกวน
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก 1+ 1/ 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 / 2 ถ้วยตวง
- กะทิ
- เกลือ 1 / 4 ช้อนชา
เริ่มทำไส้ถั่วกวน
- เริ่มด้วยทำตัวลูกชุบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหลักขององค์ประกอบวุ้นลูกชุบ โดยให้นำถั่วเขียวเลาะเปือกล้างทำความสะอาดจนกว่าสีของน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีใสสะอาด แนะนำให้ล้างประมาณ 6-7 รอบ เพื่อความชัวร์ว่าถั่วเขียวจะสะอาดจริง
- เพื่อทำให้ถั่วเขียวนิ่มขึ้น ให้แช่ถั่วเขียวเลาะเปลือกกับน้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จนถั่วเขียวอิ่มน้ำ แต่หากรู้สึกว่ายังนิ่มไม่มากพอให้แช่ตอนไปอีกเรื่อยๆ
- นำถั่วเขียวที่แช่จนนิ่มแล้ว นำไปล้างทำความสะอาดและนำไปใส่ในหม้อนึ่ง โดยเว้นรูตรงกลางเพื่อให้มีรูระบายอากาศออก นึ่งนานประมาณ 15-20 นาที ด้วยไฟกลางจนกระทั่งถั่วเขียวสุก
- นำถั่วเขียวนึ่งสุกที่นิ่มแล้วไปปั่น โดยให้แบ่งปันหลายๆ รอบ เพื่อให้ถั่วกวนละเอียด ตามด้วยใส่น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง และเกลือป่น 1/4 ช้อนชา หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง พร้อมกับปั่นส่วนผสมทั้งหมด ให้เข้ากันอย่างละเอียด
- เมื่อไส้ละเอียดเนียนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้เทส่วนผสมทั้งหมดลงในกะทะด้วยไฟอ่อนๆ และหมั่นกวนไส้เรื่อยๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง จนรู้สึกว่าเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เมื่อกวนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้ใช้ไม้พายยีๆ ตัวไส้ถั่วกวน เพื่อให้ระบายความร้อนได้เร็วขึ้น
3 ทริคทำไส้ถั่วกวนให้เฟอร์เฟ็ค
1. “ทริคสำหรับการนึ่งถั่วเขียว”
ให้ใช้ผ้าขาวบางรองถั่วเขียวไว้ก่อนที่จะวางลงในหม้อนึ่ง เพื่อไม่ให้เมล็ดถั่วเขียวร่วงไปตามร่องในหม้อ และจะทำให้หลังจากนึ่งเสร็จแล้ว สามารถนำออกมาได้ง่ายขึ้นด้วย
2. “ทริคการกวนไส้ให้แห้ง เนียนไปเนื้อเดียวกัน”
ต้องใช้ไฟอ่อน อย่าใช้ไฟแรงจนเกินไป เพราะจะทำให้ถั่วกวนเนื้อหยาบเกินไป และเนื้อเนียนไม่สม่ำเสมอ หรือแย่ที่สุดคือ อาจจะทำให้ถั่วกวนไหม้ได้ด้วย
3. “ทริคเช็คไส้ถั่วกวนให้ชัวร์”
ให้ใช้มือที่สะอาด ลองมาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ หากปั้นแล้วได้ก้อนที่พอดี ไม่เละติดมือ แสดงว่าไส้ถั่วกวนของเราพอดีแล้ว แต่หากหยิบขึ้นมาปั้นแล้วมีความแหลกอาจจะเพราะไส้ของเราแห้งเกินไป
ขั้นตอนที่ 2 : ทำตัววุ้นลูกชุบ
ส่วนผสมสำหรับทำวุ้นลูกชุบ
- ผงวุ้นตรานางเงือก 2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 / 2 ถ้วยตวง
- สีผสมอาหาร
- กลิ่นมะลิ 1/ 2 ช้อนชา
ลงมือทำวุ้นลูกชุบ
1. ระหว่างรอไส้ถั่วกวนเย็นลง มาเริ่มทำตัววุ้นลูกชุบ โดยขั้นตอนแรกให้ใส่ผงวุ้นจำนวน 2 ช้อนชา ลงแช่ในน้ำเปล่าประมาณ 10 นาที เพื่อให้วุ้นอิ่มน้ำ
2. หลังจากนั้นให้ตั้งหม้อต้มน้ำ โดยใส่น้ำเปล่าประมาณ 2 ถ้วยตวง ตามด้วยผงวุ้นที่แช่จนอิ่มน้ำแล้ว และใส่น้ำตาลทรายประมาณ 1/2 ถ้วยตวงตามลงไป
ทริคเพิ่มความหอมน่ากินให้วุ้นลูกชุบ
เพื่อเพิ่มความหอมหวาน แนะนำให้ใส่กลิ่นผสมอาหารกลิ่นมะลิลงไปในขั้นตอนนี้ค่ะ
3. ให้เคี่ยวจนส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันในไฟกลาง ประมาณ 15 นาที และเพื่อไม่ให้วุ้นจับตัวเป็นก้อน แนะนำให้เคี่ยวไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอในทิศทางเดียวกัน จนกระทั่งน้ำเดือดจึงคนต่ออีกประมาณ 2-3 นาที
แล้วจึงเช็คว่าผงวุ้นของเราละลายดีหรือไม่ ด้วยการเช็คจากกระบวย หรือทัพพีที่ใช้คนว่าไม่มีผงติดขึ้นมา และเมื่อผงวุ้นละลายดีแล้วให้ปิดไฟ
4. พักวุ้นทิ้งไว้ให้เย็นลงประมาณ 5 นาที เพื่อให้วุ้นเซ็ตตัว
ขั้นตอนที่ 3 : ปั่นวุ้นลูกชุบ
1. หลังจากไส้ถั่วกวนเย็นแล้ว ให้นำไส้ถั่วกวนมานวดด้วยมือเพื่อให้ไส้มีเนื้อเนียน และนุ่มขึ้น
ทริคนวดไส้ให้ง่าย ไม่ติดมือ
ให้ใช้น้ำมันพืชทามือเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ไส้ถั่วกวนติดมือ และไส้จะนิ่มขึ้นได้รูปขึ้นอีกด้วย
2. ใช้สีผสมอาหาร 1 ฝาต่อน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเข้มอ่อนของสี
3. มาเริ่มปั้นลูกชุบ โดยแบ่งลูกชุบเป็นก้อนๆ สามารถปั้นรูปได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะรูปผัก ผลไม้ สัตว์ หรือรูปอื่นๆ ตามไอเดียได้เลย
4. เมื่อปั้นเสร็จเสียบไม้ปลายแหลม แล้วให้นำไปจุ่มสีผสมอาหาร
เทคนิคปั้นลูกชุบให้ได้สีสวย
ให้ใช้หมายปลายแหลมเสียบ และจุ่มวุ้นลูกชุบลงไปที่สีผมอาหารเพียงครั้งเดียวให้ทั่ว แล้วหมุนไม้ขึ้นเลย รอจนสีแห้ง แล้วจึงนำลงจุ่มสีผสมอาหารอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 4 : ทำฐานวุ้น
ส่วนผสมทำฐานวุ้น
1. น้ำเปล่า 3 ถ้วย
2. ผงวุ้นตรานางเงือก 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ปรับน้อย หรือมากขึ้นได้ตามความชอบ)
4. น้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพร 1 ถ้วย
ขั้นตอนการทำฐานวุ้น
1. เทผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ ลงในน้ำเปล่าเพื่อให้วุ้นละลาย และอิ่มน้ำ
2. หลังจากนั้นนำผงวุ้นที่ละลายในน้ำแล้ว เทลงไปในน้ำที่ความร้อนปานกลาง และเคี่ยวจนผงวุ้นละลายให้ดี
3. หลังจากนั้นให้ใส่น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย โดยสามารถปรับความหวานได้ตามความชื่นชอบเลย แล้วจึงลดความแรงของไฟลง ตามด้วยเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนๆ อีกประมาณ 5 นาที
4. เมื่อวุ้นในหม้อกลายเป็นน้ำใสดีแล้ว ให้เติมน้ำผลไม้เทตามลงไป และเคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที แล้วจึงปิดไฟยกลงจากเตา
5. หลังจากนั้นให้นำไปเทใส่พิมพ์ที่เตรียมเอาไว้ แนะนำให้เทแค่ประมาณ ครึ่งพิมพ์ หรือ 3/4 ของพิมพ์ เพื่อให้มีพื้นที่ในการใส่ตัวลูกชุบที่ทำก่อนหน้านี้ไว้ด้านบน แล้วจึงปล่อยให้วุ้นเย็นลงและเซ็ตตัว
6. เมื่อเย็นลงแล้วให้เทตัวฐานวุ้นลงไปอีกรอบ เพื่อให้เป็นตัวเชื่อมของลูกชุบกับฐานวุ้นให้ติดกัน แล้วจึงนำลูกชุบที่ชุบเสร็จเรียบร้อยแล้วมาวางด้านบน โดยอาจจะเทน้ำวุ้นเพิ่มขึ้นอีกทับลูกชุบเพื่อความสวยงาม
ส่งท้ายบทความ
เพียงแค่ 4 ขั้นตอนการทำวุ้นลูกชุบก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เท่านี้คุณก็จะได้วุ้นลูกชุบสีสันสดใสน่ารับประทาน ทำให้หลายคนอาจจะลืมลูกชุบแบบเดิมๆ ไปได้เลย โดยอาจจะสามารถปรับเปลี่ยนจากน้ำผลไม้ของฐานวุ้น เป็นน้ำสมุนไพร หรือน้ำที่คุณโปรดก็ได้ เพราะอย่าลืมว่าสูตรขนม หรือสูตรอาหารต่างๆ สามารถปรับได้ตามความชอบของเราเองเสมอค่ะ