MM-cover-บทความ วิธีทำวุ้นลอยแก้ว

10 เคล็ดลับการทำวุ้นลอยแก้วให้อร่อย [มือใหม่ก็ทำได้]

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

ผลไม้ลอยแก้ว เป็นหนึ่งในเมนูของหวานยอดนิยมของคนไทยมานาน โดยนิยมนำเอาผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ มาลอยเพิ่มความหวานในน้ำเชื่อม ยิ่งเมื่อปิดท้ายก่อนเสิร์ฟด้วยการเติมน้ำแข็งเย็นๆ ก็ยิ่งเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าให้เพิ่มความอร่อยจนถึงขีดสุด ก็ต้องยกให้เมนูที่ผสมผสานระหว่างความหวานสดชื่นของลอยแก้ว กับวุ้นที่ให้รสสัมผัสกรอบอร่อย เมื่อมาเจอกันจึงกลายเป็น “วุ้นลอยแก้ว” ที่รสชาติหวานเปรี้ยวสดชื่นอย่างลงตัว เหมาะกับอากาศร้อนๆ 

บทความนี้ถ้าใครอยากลองทำวุ้นลอยแก้ว ที่ใส่ผลไม้ตามดูกาลได้ตามความชอบ มาดู 10 เคล็ดลับการทำวุ้นลอยแก้วให้อร่อย พร้อมวิธีทำที่สามารถทำได้ง่ายๆ จากที่บ้าน

10 เคล็ดลับการทำวุ้นลอยแก้วให้อร่อย

  1. แช่ผงวุ้นให้อิ่มน้ำ และผงวุ้นต้องละลายดี

    ไม่ว่าจะทำวุ้นรูปแบบไหน หัวใจหลักสำคัญเลย คือ จะต้องแช่วุ้นให้จนวุ้นอิ่มน้ำ และผงวุ้นเมื่อนำไปต้มจะต้องละลายดีไม่มีจับก้อนเป็นเม็ดๆ หรือติดตามหม้อ ติดทัพพีเด็ดขาด เพราะการที่ผงวุ้นไม่ละลายดี อาจจะทำให้วุ้นของเราเกิดการคายน้ำ มีหน้าตาที่ไม่น่ารับประทาน หยิบมาทาแล้วก็ไม่ฟินตามที่ใจคิด
  2. เลือกผลไม้ให้เหมาะสม
เลือกผลไม้ให้เหมาะสม

ผลไม้ที่นิยมนำมาทำวุ้นลอยแก้วมีหลายประเภท เช่น เงาะ ลำไย ส้ม ลูกตาล หรือแม้แต่ทานเป็นแบบผสมกันหลายชนิดมี ซึ่งผลไม้ส่วนใหญ่ที่นิยมนำมาทำมักจะมีรสชาติที่เปรี้ยว เพราะเมื่อวานกับน้ำเชื่อมลอยแก้วแล้วรสชาติเปรี้ยวของผลไม้จะไปตัดกับความหวานทำให้เกิดรสชาติที่กลมกล่อมลงตัว เป็นความเปรี้ยวหวานที่จะเปลี่ยนเป็นความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นแล้วแนะนำให้เลือกผลไม้ที่มีรสชาติจัดจ้านมาทำวุ้นลอยแก้ว จะให้รสชาติที่อร่อยสดชื่นมาก

  1. จัดการผลไม้ให้เรียบร้อย

    ผลไม้ที่นำมาใช้ควรจะต้องมีการหั่นเพื่อให้มีขนาดในการทานแบบพอดีคำ ไม่เล็ก หรือไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับผลไม้แต่ละชนิดที่เราใช้ด้วย เช่น ถ้าเลือกผลไม้ที่มีเมล็ดด้านในจะต้องคว้านเมล็ดออกให้หมดเพื่อให้สะดวกในการทาน หลังจากนั้นจึงนำมาจัดการหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือนำไปปั่นละเอียด หากต้องการรสสัมผัสที่เนียนนุ่มไปเลย
  2. ใช้สีผสมอาหารเพิ่มให้หน้าตาน่ารับประทาน

    ว่ากันว่าสีสันจะช่วยเพิ่มให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นแล้วการเลือกใช้สีผสมอาหารมาเป็นหนึ่งในส่วนผสมของวุ้นลอยแก้วก็จะช่วยเพิ่มความสวยงามที่ยิ่งทำให้วุ้นลอยแก้วดูสดใส ทำให้ไม่ว่าใครก็อยากหยิบทาน
  3. ใช้น้ำผลไม้เพิ่มรสชาติอร่อย

    ถ้าหากต้องการเพิ่มรสชาติของวุ้น ให้หวานละมุนดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผลไม้ในวุ้นลอยแก้วมากยิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้น้ำผลไม้ของผลไม้ชนิดนั้นๆ มาใส่ เช่น ใช้ผลไม้ที่เป็นส้ม ก็สามารถใส่น้ำส้มลงไปแทนการใช้น้ำเปล่าในขั้นตอนของการทำวุ้น หรือหากใครมีความชื่นชอบในน้ำรสชาติอื่นๆ เช่น น้ำหวานแดง ก็สามารถนำมาปรับใส่แทนน้ำเปล่าได้เช่นเดียวกันด้วย แค่นี้ก็จะทำให้ได้ทั้งความหวานจากตัววุ้นที่ได้จากน้ำผลไม้ และความหวานจากน้ำลอยแก้วแล้ว
  4. การเพิ่มกลิ่นหอม

    หน้าตาก็น่ารับประทานแล้ว จะขาดหัวใจสำคัญที่ช่วยเติมเต็มให้วุ้นมีรสชาติอร่อยด้วยไปไม่ได้เลย นั่นก็คือการใส่กลิ่นหอม เพราะกลิ่นหอมเมื่อทานแล้วจะช่วยเสริมทำให้ขนมของเราดูละมุนยิ่งขึ้น

    โดยกลิ่นหอมที่แนะนำคือกลิ่นหอมจากใบเตยสด สำหรับสายที่มีใบเตยที่บ้าน และต้องการกลิ่นหอมจากธรรมชาติ สามารถใส่ใบเตยลงไปต้มกับน้ำเชื่อมลอยแก้วได้เลย หรือสำหรับใครมีกลิ่นสำเร็จรูป เช่น กลิ่นมะลิ ก็สามารถหยดใส่ตัวน้ำเชื่อมลอยแก้วได้ 1-2 หยด เพียงเท่านี้วุ้นลอยแก้วของเราก็จะทั้งสวย ทั้งหอม ทั้งอร่อยสุดๆ
  5. ใช้แม่พิมพ์เพิ่มความสวยงามน่ากิน

    สำหรับแม่พิมพ์ที่ใช้ในวุ้นลอยแก้วก็จะขึ้นอยู่กับรูปทรงความต้องการของคนทำ เช่น วุ้นลอยแก้วแบบทรงกลม หรือทรงดอกไม้ แต่ที่นิยมมากที่สุดคือวุ้นลอยแก้วในรูปแบบทรงกลม เพราะแม่พิมพ์หาง่าย และทรงกลมก็เป็นทรงที่สวยงามเมื่อจัดเสิร์ฟแล้วก็ทานได้ง่ายด้วย
  6. พักทิ้งไว้ให้วุ้นเซ็ตตัวดี

    ในขั้นตอนของการวุ้นให้อร่อย ทานแล้วฟิน ควรจะต้องพักวุ้นทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง หรือแช่ในตู้เย็นในระยะเวลาที่เหมาะสมกับปริมาณของวุ้น เพื่อที่นำมาทานกับน้ำเชื่อมลอยแก้วแล้ว วุ้นจะให้รสสัมผัสที่กรอบอร่อย ไม่เละเหลว หรือแข็งจนเกินไป
  7. เสิร์ฟแบบเย็นใส่น้ำแข็ง

    เพื่อเพิ่มความฟิน ควรจัดเสิร์ฟวุ้นลอยแก้วด้วยน้ำแข็งไส เพราะทานแล้วความเปรี้ยวหวานหอมจะเข้าไปตีกันในปากของเราให้สดชื่น แนะนำว่าน้ำแข็งที่ใช้ถ้าเป็นน้ำแข็งป่นจะยิ่งทำให้วุ้นลอยแก้วอร่อยมากยิ่งขึ้น!
  8. ใส่น้ำเชื่อมลอยแก้วให้มีปริมาณที่พอดี

    มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่อร่อย การใส่น้ำเชื่อมลอยแก้วแนะนำให้ใส่ในอัตราส่วน วุ้นผลไม้ 1 ส่วน และน้ำเชื่อมลอยแก้วอีก 2 ส่วนเมื่อวานแล้วจะให้รสชาติที่หวานพอดี 

นี่คือ 10 เคล็ดลับการทำวุ้นลอยแก้วให้อร่อยที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ทำได้ และเรามีสูตรการทำวุ้นลอยแก้ว เพื่อมาเป็นตัวอย่างให้กับคนชอบของหวาน ได้ลองหยิบเคล็ดลับมาทำตามกันแบบจริงๆ

เมนู วุ้นผลไม้รวมลอยแก้ว มือใหม่ก็ทำตามได้เลย

วุ้นลอยแก้วที่รวมเอาบรรดาผลไม้รวมหลายชนิดมาไว้ในที่เดียวกัน ในสูตรนี้จะได้ทั้งรสชาติ เปรี้ยวหวานอร่อยลงตัวในชามเดียว (ที่อร่อยจนต้องขอเบิ้ลแน่นอน) 

ส่วนผสมตัววุ้นลอยแก้ว

  1. ผลไม้รวม เช่น ส้ม แตงโม เงาะ ลำไย แก้วมังกร (ปรับเพิ่มลดผลไม้ได้ตามใจชอบ)
  2. ผงวุ้นตรานางเงือก 1 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำเปล่า 800 มิลลิลิตร
  4. น้ำตาลทราย 120 กรัม 
  5. แม่พิมพ์ทรงกลม 
  6. สีผสมอาหาร 1-2 หยด

ส่วนผสมน้ำเชื่อมลอยแก้ว

  1. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  2. น้ำตาลทรายขาว 120 กรัม
  3. ใบเตย 3-4 ใบ

วิธีทำวุ้นผลไม้รวมลอยแก้ว

  1. นำน้ำเปล่าขึ้นตั้งหม้อ ตามด้วยผงวุ้นตรานางเงือก 1 ช้อนโต๊ะ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อให้ผงวุ้นอิ่มน้ำ
  2. ระหว่างที่รอวุ้นอิ่มน้ำให้จัดเตรียมผลไม้ โดยนำมาหั่น สับ หรือปั่น (รูปแบบสามารถปรับได้ตามใจชอบ) เพื่อให้ตัวผลไม้ที่จะอยู่ในวุ้นมีขนาดที่เล็ก หยิบทานได้ง่ายพอดีคำ
  3. จัดผลไม้ลงใส่ในแม่พิมพ์วงกลม โดยจัดให้แต่ละชิ้นมีผลไม้แต่ละชนิดอย่างทั่วถึง
  4. เมื่อครบเวลาแล้วนำผงวุ้นขึ้นตั้งไฟกลาง คนไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผงวุ้นละลาย หลังจากนั้นจึงใส่น้ำตาลทรายขาว และเกลือ โดยสามารถปรับเพิ่มลดส่วนผสมในการแต่งรสชาติได้ตามใจ แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนผงวุ้น น้ำตาลทราย และเกลือละลายดีหมด ด้วยวิธีการเช็คว่าไม่มีเศษผงต่างๆ ติดตามทัพพี
  5. หยดสีผสมอาหารลงไป 1-2 หยด (ดูจากสีที่ชอบได้เลย) คนให้เข้ากับเนื้อวุ้น แล้วจึงปิดไฟยกลงจากเตา
  6. นำน้ำวุ้นเทลงในแม่พิมพ์ทรงกลมที่มีผลไม้จัดไว้แล้ว และนำไปพักทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง หรือถ้าต้องการให้เซ็ตตัวเร็วขึ้นสามารถนำใส่ตู้เย็นได้เลย
  7. ระหว่างรอวุ้นเซ็ตตัว มาเริ่มทำตัวน้ำเชื่อมลอยแก้วกันต่อ โดยการนำน้ำเปล่าขึ้นตั้งไฟกลาง แล้วจึงใส่ใบเตยที่มัดปมเรียบร้อยแล้วลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ (ถ้าใครต้องการหอมจัด ให้ใส่เป็นกลิ่นมะลิ)
  8. หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายขาวลงไป คนไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลทรายขาวละลายจนหมด จึงปิดไฟยกลงจากเตา พักทิ้งไว้สักครู่จนน้ำเชื่อมลอยแก้วเริ่มคลายความร้อน
  9. นำวุ้นที่เซ็ตตัวดีแล้วออกจากพิมพ์ ตามด้วยใส่น้ำแข็งบดละเอียด แล้วราดด้วยน้ำเชื่อมกลิ่นหอมใบเตย พร้อมจัดเสิร์ฟได้เลย

สรุปท้ายบทความ

และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับของการทำวุ้นผลไม้ลอยแก้ว ที่ทำตามได้ง่ายมาก และก็มีรสชาติอร่อยมากเช่นเดียวกัน สำหรับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทยแบบนี้ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะทานอะไรที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น คลายร้อน อย่าลืมนึกถึงวุ้นลอยแก้ว เพราะเมนูนี้นอกจากจะได้ทานผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีเนื้อสัมผัสวุ้นที่กรุบกรอบ ที่จะช่วยเติมเต็มความอร่อยได้อย่างลงตัวยิ่งขึ้น

ebook-banner-1