อยากทำวุ้นขาย ควรพิจารณาอะไรบ้าง?

เชื่อว่าคนที่รักในการทำขนม หรือเบเกอรี่หลายคนมักจะมีความฝันในการเปิดร้านขายขนมที่เรารัก ยิ่งหากได้ยินคำชื่นชมจากบุคคลที่ได้ลองทานขนมของเราแล้ว ยิ่งเป็นแรงผลักที่ทำให้เราอยากจะต่อยอดเพื่อเปิดร้านขายเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นไปอีก

“ขนมวุ้น” เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในขนมที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่ต้องอาศัยความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และใส่ความสร้างสรรค์ลงไป แต่วิธีการทำวุ้นขายนั้นยิ่งง่ายเท่าไหร่เราจะยิ่งต้องเพิ่มความพิเศษให้มันเข้าไปอีก

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังอยากทำวุ้นขาย ในบทความนี้มาดูกันเลยว่าต้องเริ่มจากจุดไหน และควรพิจารณาอะไรบ้าง? ก่อนที่จะเริ่มขายจริง

10 ข้อที่ต้องพิจารณาก่อนขายขนมวุ้น

แน่นอนว่าจะเริ่มทำขนมวุ้นขายออกสู่ตลาดทั้งที ถึงแม้ว่าคุณจะทำขนมเป็นแล้ว แต่ก็ลองนำเช็คลิสต์ทั้ง 10 ข้อนี้ไปช่วยพิจารณาเพิ่มเติมว่าร้านขายขนมของเรายังขาดส่วนไหนไป หรือส่วนไหนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้บ้าง

1. ความมั่นใจในรสชาติ

ก่อนจะเริ่มทำวุ้นขาย หัวใจสำคัญของขนมคือ “รสชาติต้องอร่อย” เพราะนั่นคือจุดขายที่จะทำให้คนซื้อไปทานแล้วกลับมาซื้ออีก โดยต้องอย่าลืมว่าขนมต้องถูกปากคนจำนวนมากที่ชื่นชอบความอร่อยที่แตกต่างกัน 

ดังนั้นแล้วคุณควรต้องเริ่มต้นจากทำบ่อยๆ ให้คนอื่นได้ชิมรสชาติ และให้คำแนะนำติชมตามความจริง พร้อมทั้งนำคำแนะนำเหล่านั้นมาปรับใช้ด้วย แล้วทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ด้วยการหมุนเวียนคนชิม เพราะแต่ละคนอาจจะชื่นชอบในรสชาติที่แตกต่างกัน หากคุณมีคำแนะนำจากคนอื่นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับวุ้นของคุณ

นอกจากนี้แล้วคุณจะต้องมีความมั่นใจในขนมของคุณ และเชื่อมั่นในฝีมือของตนเองก่อนเริ่มทำวุ้นขาย รวมไปถึงต้องหมั่นทำจนได้สูตรที่มีรสชาติคงที่ ซื้อทานกี่ครั้งก็ยังได้รสชาติอร่อยเหมือนเดิม 

2. มองหาจุดเด่น และจุดแข็งที่คุณมี

ไม่ว่าจะเริ่มทำอะไร ต้องเริ่มจากการมองหาจุดเด่น และจุดแข็งที่ตัวคุณมี เพื่อพิจารณาว่าเมื่อทำวุ้นขายแล้วเราจะต้องชูอะไรเป็นตัวเด่นให้ลูกค้าสนใจ เช่น จุดเด่นของเราคือวุ้นมีหน้าตาสวยงามน่ารับประทาน เพราะมีการตกแต่งสร้างสรรค์ไอเดียมากกว่าวุ้นธรรมดาทั่วไป ซึ่งคุณก็สามารถเอาความสวยงามนี้มาเป็นจุดดึงดูดได้

แต่หากเราไม่สามารถพิจารณาด้วยตัวเองได้ แนะนำให้ลองทำวุ้นให้กับคนอื่นได้ลองทานดู เพื่อให้เขาให้คำแนะนำติชมเพิ่มเติมค่ะ

3. มองหาจุดอ่อนที่ต้องแก้ไข

อย่ามองจุดเด่นแค่ด้านเดียว เพราะหากมองข้ามจุดอ่อนที่คุณมีไปอาจจะทำให้เมื่อทำวุ้นขาย คุณอาจได้รับผลกระทบภายหลัง เช่น จุดเด่นของเราคือวุ้นมีหน้าตาน่ารับประทาน แต่จุดอ่อนคือต้องใช้เวลาในการทำนานมากๆ ต่อชิ้น หากเป็นแบบนี้คุณต้องหาทางจัดการจุดอ่อนให้เร็วที่สุด เช่น มองหาผู้ช่วย หรือเมื่อวางขายจริงจะต้องมีการจองออเดอร์เข้ามาก่อนล่วงหน้า เป็นต้น

ถึงแม้ว่าเราจะมองเห็นจุดอ่อนของตนเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าการทำวุ้นขายของคุณจะกลายเป็นอุปสรรค แต่ให้มองว่าเมื่อเราเห็นจุดอ่อนแล้ว เราจะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที มากกว่าการเริ่มขายไปแล้วขนมของคุณไม่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น

4. เงินทุนเป็นเรื่องสำคัญ

จะเริ่มต้นขายของทั้งที หากคุณไม่ได้มีทุนสำหรับเริ่มทำวุ้นขาย คุณจะต้องพิจารณาเรื่อง “เงินทุน” ให้ดี เพราะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้รู้ว่าเราจะวางขายแบบไหน 

• เปิดหน้าร้านขายเอง 
• เปิดขายผ่านออนไลน์ 
• รับเป็นพรีออเดอร์ แล้วทำส่งตามออเดอร์
• ทำไว้พร้อมส่ง หรือทำขายส่งให้ร้านไปขายต่อ

การทำวุ้นขายถึงแม้จะมีต้นทุนไม่สูงมากนัก เพราะวัตถุดิบมีราคาไม่แพงหาซื้อได้ง่ายทั่วไป และวัตถุดิบหลายตัวสามารถซื้อเก็บไว้ได้นาน แต่ขนมวุ้นที่ทำเสร็จไปแล้วเก็บไว้ได้ไม่นาน หากไม่มีการพิจารณาที่ดีก่อนเริ่มทำขายแล้วก็อาจจะทำให้เสียของ และขาดทุนได้ ดังนั้นให้ตั้งต้นคิดก่อนว่าเราพร้อมที่จะลงทุนมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะนำไปสู่เป้าหมายอื่นๆ ต่อไปได้

5. พิจารณาตลาด

เมื่อรู้จุดอ่อน จุดแข็ง และงบประมาณที่เราจะสามารถลงทุนได้แล้ว ให้คุณลองคิดต่อว่าจะวางขายในรูปแบบไหน แล้วตลาดนั้นมีวุ้นวางขายอยู่แล้วหรือเปล่า? 

ถ้ามีวุ้นวางขายอยู่แล้ว ให้พิจารณาต่อว่าคู่แข่งของคุณเป็นใคร มีจุดแข็งหรือจุดอ่อนอะไรเมื่อเทียบกับวุ้นของคุณ เพื่อนำมาคิด และปรับปรุงให้วุ้นของคุณแตกต่าง หรือดีกว่าคู่แข่ง นั่นจึงจะทำให้วุ้นของคุณมีจุดแข็ง และจุดเด่นที่ชัดขึ้น เรียกได้ว่ารู้เขารู้เราเอาไว้ก่อน

6. คุณมีเวลาให้กับธุรกิจนี้แค่ไหน?

หนึ่งในสิ่งสำคัญที่คุณควรพิจารณาก่อนเริ่มทำวุ้นขายคือ “เวลา” เนื่องจากบางคนอาจจะต้องการทำวุ้นขายเป็นรายได้เสริมจากงานประจำหรือบางคนต้องการทำวุ้นขายเป็นอาชีพหลัก โดยการทำขนมนอกจากการมีฝีมือ มีใจแล้ว สิ่งสำคัญคือการให้ “เวลา” เพราะขนมและเบเกอรี่ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาในการทำ ดังนั้นแล้วคุณต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนเริ่มทำว่าคุณมีเวลาให้มันแค่ไหน?

6.1 ทำวุ้นขายเป็นอาชีพเสริม

ในยุคนี้มีหลายคนมองหาอาชีพเสริมนอกจากงานประจำ ซึ่งการทำวุ้นขายเองถึงแม้ว่าจะมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ส่วนผสมไม่เยอะ แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องคำนวนเวลาในการทำดีๆ เช่น จัดตารางว่าจะทำวุ้นขายช่วงเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดเท่านั้น หรือเปิดขายเป็นรอบๆ ตามออเดอร์ที่สั่ง ซึ่งหากคุณสามารถจัดการเวลาได้เป็นอย่างดี ทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมของคุณจะไม่กระทบกันแน่นอน

6.2 ทำวุ้นขายเป็นอาชีพหลัก

หากคุณมีเป้าหมายในการทำวุ้นขายเป็นงานประจำ นั่นหมายความว่าคุณมีเวลาให้มันได้ทั้งวัน จึงขอแนะนำว่า ควรจัดการตารางให้ดี เพื่อให้คุณไม่ใช้เวลาไปอย่างสิ้นเปลือง เช่น ทำตารางว่าในแต่ละช่วงของแต่ละวันจะใช้กับการทำวุ้นแบบประเภทไหน หรือจะศึกษาวุ้นแบบไหนเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับวุ้นของคุณ

7. มีแรงทำแค่ไหน?

หลายครั้งที่เรามักจะเจอกับปัญหาว่าเมื่อขายไปสักพักแล้วขายดี แต่เราดันไม่มีแรง และเวลาที่ทำมากพอ เพราะเริ่มตั้งต้นจากการทำคนเดียว หรือทำกันเองในครอบครัว จนอาจจะทำให้ออเดอร์ตกหล่น หรือไม่พอขาย จนอาจจะเสียรายได้ไปได้ 

วิธีแก้ที่ตามมาหลายคนต้องไปจ้างคนมาทำขนมเพิ่มเติม ซึ่งนั่นอาจจะอยู่นอกเหนือการควบคุม จนเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกหากเราไม่มีการตั้งรับที่ดีมากพอ ในข้อนี้หากคุณมีการพิจารณาเรื่องเวลาด้วยการจัดการเวลาให้ดี รวมไปถึงกำหนดสเกลการขายของคุณเอาไว้ตั้งแต่ต้น ก็อาจจะทำให้ไม่เกิดปัญหาว่ามีของไม่พอขายหรือมีออเดอร์ล้น แต่ไม่มีคนทำขนม

8. ช่องทางการขาย

สมัยนี้มีช่องทางการขายให้คุณเลือกได้หลายแบบ ทั้งหน้าร้าน ฝากร้านอื่นขาย หรือขายออนไลน์ ดังนั้นให้พิจารณาให้ดีว่าเราต้องการวางขายที่ไหนบ้าง เพราะนอกจากจะทำให้เห็นตลาดหรือแนวโน้มของการขายที่ประสบความสำเร็จแล้ว จะยังนำไปสู่การโปรโมทการขายในขั้นตอนต่อไป

9. โปรโมทอย่างไรให้ปัง

ในยุคที่มีการค้าขายกันเป็นจำนวนมากแบบนี้ คุณยิ่งต้องพิจารณาหาพื้นที่โปรโมทตัวเองให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่คนที่เลือกขายออนไลน์เท่านั้น เพราะแม้จะขายตามหน้าร้านต่างๆ เรื่องการโปรโมทให้โดดเด่นจนคนอยากซื้อก็เป็นเรื่องสำคัญ

9.1 วางขายหน้าร้าน

หากคุณมีพื้นที่ขายของตัวเองยิ่งสามารถทำได้ง่าย เช่น อาจจะต้องทำป้ายมาวางเพื่อให้ผู้ซื้อเห็นป้ายได้ชัดเจนว่าคุณขายอะไรบ้าง มีกี่รสชาติให้เลือก ราคาเท่าไหร่ เมื่อได้ข้อมูลครบผู้ซื้อจะได้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว แต่หากอยากเพิ่มให้คนจดจำได้มากขึ้นอาจจะมีแพ็คเกจที่บ่งบอกชื่อร้าน เบอร์โทรให้สามารถติดต่อกลับมาได้ด้วย 

9.2 วางขายออนไลน์

ออนไลน์ในยุคนี้มีลูกเล่นให้คุณเยอะมาก ทั้งการยิงโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ แต่นั่นก็หมายความว่าจะตามมาด้วยงบประมาณในการโปรโมทเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งหากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำใหม่ๆ อาจจะเริ่มจากการเปิดเพจ facebook หรือเปิด Instragram เพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่าคุณเริ่มต้นขายของแล้ว พร้อมทั้งใส่รายละเอียดช่องทางการติดต่อ และข้อมูลการขายให้ครบถ้วน

10. ช่องทางจัดส่ง

หากคุณต้องการทำการขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ต้องมีการจัดส่งผ่านช่องทางไปรษณีย์ ยิ่งเป็นขนมยิ่งต้องพิจารณาเป็นอย่างดี เพราะเสี่ยงมากที่จะเสียง่ายก่อนถึงมือคนรับประทาน โดยเฉพาะเมื่อเป็นวุ้นเอง ดังนั้นแม่ค้าหรือพ่อค้ามือใหม่ทั้งหลาย อาจจะต้องพิจารณาเลือกส่งในช่องทางแบบอื่นแทน เช่น

• ส่งขนมเอง
• จ้างแมสเซนเจอร์ 
• ใช้บริการส่งผ่าน Grab, Line, Food Panda 

เพื่อที่จะย่นระยะเวลาในการจัดส่งให้สั้นลง แต่นั่นก็หมายความว่าคุณอาจจะต้องยอมเสียลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ไกลแทน

สรุปท้ายบทความ

การพิจารณาเหล่านี้เป็นแค่เพียงข้อมูล และข้อแนะนำเบื้องต้นที่คุณควรทำความเข้าใจ และศึกษาให้ดีก่อนเริ่มทำวุ้นขายจริง เพราะถึงแม้การทำวุ้นขายจะเริ่มจากความรัก และฝีมือที่คุณมี แต่เมื่อเข้าสู่การวางขายจริงแล้ว ก็เป็นเรื่องของธุรกิจที่คุณจะต้องยิ่งใส่ใจทุกรายละเอียดให้ถี่ถ้วน เพื่อที่จะประคับประคองร้านของคุณให้ไปสู่ความสำเร็จที่คุณต้องการ