มองไปทางไหนในตอนนี้ก็เจอแต่ “วุ้นแฟนซี” หน้าตาสีสันสดใสน่ารับประทาน แต่บางครั้งทานร้านไหนก็ยังมีรสชาติไม่อร่อยถูกปากเราสักที?… จะหันมาทำวุ้นแฟนซีมาทานเองดีไหมนะ หรือถ้าทำแล้วถูกปากจะทำขายเป็นอาชีพเสริมเลยดีไหม เพราะแอบได้ยินมาว่าการทำวุ้นแฟนซีนั้นขั้นตอนไม่ยากเลย แถมยังเลือกทำหน้าตาและรสชาติได้หลากหลาย และที่สำคัญต้นทุนไม่แพงอีกด้วย
แต่สำหรับใครที่กล้าๆ กลัวๆ ยังทำขนมไม่เก่ง หรือไม่เคยทำวุ้นแฟนซีมาก่อน ในบทความนี้เรามี เคล็ดลับก่อนเริ่มการทำวุ้นแฟนซี ที่คุณสามารถทำเป็นลิสต์เอาไว้ก่อนเริ่มลงมือทำวุ้น เพื่อให้คุณได้วุ้นหน้าตาดีน่ารับประทาน สัมผัสเนื้อวุ้นละมุนลิ้น แถมรสชาติยังอร่อยกลมกล่อม
ก่อนเริ่มต้นทำวุ้นแฟนซีกับ 10 เคล็บลับ ที่ต้องจดเอาไว้
การเตรียมพร้อมก่อนเริ่มลงมือทำ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราได้มองเห็นปัญหาเบื้องต้นและระมัดระวังมากขึ้น เพราะถึงแม้วการทำวุ้นแฟนซีจะทำง่าย มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่เมื่อลงมือไปแล้ว หากไม่รู้จักการจัดการกับวัตถุดิบต่างๆ มากพอ วุ้นแฟนซีที่เราคิดภาพเอาไว้ ก็อาจจะออกมาไม่สมบูรณ์ได้
1. การทำวุ้นแฟนซีไม่ยาก แต่ต้องศึกษาก่อน
ขั้นตอนแรกที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำวุ้นแฟนซีคือ ควรศึกษาสูตรวุ้นให้ดีก่อน เพราะเชื่อว่าหลายคนอาจจะใช้วิธีการเสิร์ชหาวิธีการทำวุ้นจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะพบว่ามีหลายสูตรให้เลือกทำ ดังนั้นต้องดูให้ถี่ถ้วน เพราะแต่ละสูตรก็จะมีรสชาติ วิธีการทำที่แตกต่างกัน
โดยเลือกว่าสูตรไหนที่คุณคิดว่าทำได้ไม่ยากเกินไป และลองทำจนเจอรสชาติที่ถูกปากก่อน จึงค่อยให้คนใกล้ตัวชิมและเริ่มทำขาย ซึ่งทุกคอมเมนต์จะช่วยให้วุ้นแฟนซีของคุณได้พัฒนาจนพบกับทางการทำที่ใช่ในแบบของคุณ ไม่อย่างนั้นแล้วการทำวุ้นแฟนซีง่ายๆ ที่เราอยากให้ปัง ก็อาจจะพังได้ไม่ยากเลยเหมือนกันค่ะ
2. เลือกรูปแบบวุ้นที่จะทำก่อน จะได้หาผงวุ้นที่ถูกต้อง
เมื่อเจอสูตรที่ถูกใจและอร่อยถูกปากแล้ว ตัววุ้นแฟนซีเองก็มีหน้าตาหลายรูปแบบทั้ง
- วุ้นใส
- วุ้นกะทิ
- วุ้นนมสด
- วุ้นสลับสี
ซึ่งตัววัตถุดิบที่ใช้ในการทำ และวิธีการทำก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละสูตรด้วย โดยวัตถุดิบที่ชูโรงให้วุ้นแฟนซีของคุณนั่นคือ ผงวุ้น นั่นเอง เพราะผงวุ้นแต่ละแบบจะให้ความแข็งตัวของเนื้อวุ้นที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องคำนวณสัดส่วนให้แม่นยำก่อนนำมาลงมือทำนะคะ
3. วุ้นหน้าตาดีต้องอร่อยด้วย
จะทำวุ้นแฟนซีทั้งที แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าควรจะต้อง “สร้างสรรค์ มีหน้าตาแปลกใหม่” แปลกตา ไม่ซ้ำใคร มีสีสันสดใสน่ารับประทาน ตามที่เราเห็นวุ้นแฟนซีมากมายในท้องตลาด ไม่ว่าจะ
- วุ้นดอกไม้
- วุ้นลายการ์ตูน
ที่ถูกออกแบบทั้งหน้าตาและสีสันที่น่ารักน่าทาน ดังนั้นเราจึงต้องคิดหน้าตาของวุ้นแฟนซีให้แตกต่างจากท้องตลาด เพื่อให้สามารถทำขายได้ ซึ่งองค์ประกอบที่จะช่วยรังสรรค์ให้วุ้นแฟนซีมีหน้าตาที่แตกต่างออกไปได้แก่
- แม่พิมพ์วุ้น
- สีผสมอาหาร
ซึ่งนอกจากหน้าตาที่คุณได้ออกแบบเองแล้ว ก็อย่างลืมเรื่องรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีของตัววุ้นด้วย โดยสัดส่วนวัตถุดิบต้องแป๊ะ ขนาดเท่ากันทุกชิ้น และรสชาติสม่ำเสมอทั้งหมด
4. แช่ผงวุ้นไว้ก่อนเริ่มทำ
ข้อควรระวัง อย่านำผงวุ้นไปต้มในน้ำเดือดๆ เลยอาจจะทำให้ต้องใช้เวลาในการคนผงวุ้นให้ละลายนานกว่า และอาจจะเสี่ยงที่วุ้นจะจับตัวเป็นก้อน
โดยเคล็ดลับของการทำวุ้นแฟนซี และวุ้นอื่นๆ ที่อยากแนะนำคือ “ควรแช่ผงวุ้นกับน้ำเปล่าทิ้งไว้ก่อน” สักประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ผงวุ้นอิ่มตัว จะช่วยให้ละลายง่ายขึ้นไม่จับตัวเป็นก้อน เมื่อแช่เสร็จให้นำไปต้มในน้ำไฟกลาง ให้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำเดือด ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่นาน เพราะการแช่ผงวุ้นก่อนจะทำให้ผงวุ้นสุกได้ง่ายขึ้น ละลายได้เร็วขึ้นด้วย
5. เช็คทุกครั้งว่าผงวุ้นละลายดีแล้ว
วิธีการเช็คว่าวุ้นละลายตัวดีแล้ว ให้ใช้ช้อนสะอาดในการเช็คด้วยการวนรอบๆ หม้อ ถ้าผงวุ้นละลายดีแล้วจะไม่มีผงวุ้นติดมากับช้อน ซึ่งถ้ายังมีผลวุ้นติดมาบนช้อน แนะนำให้เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ แล้วจึงเช็คผงวุ้นตามวิธีข้างต้นอีกครั้ง
6. วุ้นต้องไม่แข็งเกินไป และไม่เหลวเป็นน้ำ
เคล็ดลับสำคัญของการทำวุ้นแฟนซี และวุ้นทุกประเภท คือ “วุ้นจะต้องอยู่ที่ความพอดี คือวุ้นจะต้องไม่แข็งตัวเกินไป และไม่เหลวจนเป็นน้ำ”
แต่ถ้าวุ้นของเราแข็งเกินไป หรืออ่อนนิ่มจนเหลวเป็นน้ำเกินไป ได้เนื้อวุ้นที่ไม่ได้ดั่งใจ มาดูวิธีแก้ไขกันค่ะ
เนื้อวุ้นที่ได้แข็งเกินไป
ให้นำไปตั้งไฟใหม่อีกครั้งแล้วจึงใส่น้ำ ไม่ต้องเยอะเกินไป ดูจากระดับความแข็งของวุ้นที่ได้ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้การกะเอาเองก่อน แล้วจึงค่อยๆ คนจนวุ้นสุกอีกรอบ
เนื้อวุ้นอ่อนจนเหลวเป็นน้ำ
อาจจะเกิดจากเราใส่น้ำมากเกินไป หรือใส่ผงวุ้นน้อยเกินไป ตัววุ้นแฟนซีที่ได้จึงไม่ได้สมบูรณ์แบบ ดังนั้นหากวุ้นเหลวไปแนะนำให้ใส่ผงวุ้นเพิ่ม ด้วยการนำวุ้นที่เหลวของเราตั้งไฟใหม่ พร้อมกับใส่ผงวุ้นเพิ่ม แล้วคนไปเรื่อยๆ จนวุ้นละลายหมดและสุก
ปัญหาจากการทำตัวเนื้อวุ้นแก้ไขได้ แต่อย่าลืมว่าทุกครั้งที่มีการแก้ไขแล้วให้เราตั้งใจสังเกตข้อผิดพลาดในการทำ เพื่อในครั้งถัดไปจะได้ไม่เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก
7. วุ้นของเราไม่เซ็ตตัวทำยังไงดี?
วุ้นไม่เซ็ตตัว จะแก้ปัญหายังไงดี? เพราะถ้าจะให้ทิ้งวุ้นที่ทำพลาดไปเลยก็คงจะเสียของ ดังนั้นในกรณีที่วุ้นของเรายังสามารถปรับแก้ไขได้ ให้เริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วยการนำน้ำเปล่ามาผสมผงวุ้นใหม่ แล้วจึงคนผงวุ้นให้ละลายก่อนในน้ำระดับอุณหภูมิห้อง
แล้วจึงนำไปตั้งไฟอ่อน พร้อมกับใส่วุ้นที่ไม่แข็งก่อนหน้านี้มาคนจนสุกใหม่อีกรอบ จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปตามสูตร รับรองว่าคราวนี้เราจะไม่มีพลาด เพราะวุ้นจะเซ็ตตัวแน่นอน
8. วุ้นใส ต้องใสจริง
สำหรับผู้เริ่มทำวุ้นแฟนซี บางคนอาจจะเริ่มจากวุ้นแบบใส ดังนั้นแล้วอย่าลืมว่าวุ้นต้องใสจริง เพราะจะยิ่งช่วยเพิ่มความน่ารับประทานให้วุ้นของเรา ข้อสำคัญคือต้องใส่ใจเลือกวัตถุดิบที่ใช้อย่างน้ำตาลทราย “ควรใช้น้ำตาลทรายขาว” ไม่ควรใช้น้ำตาลทรายแดง จึงจะทำให้เราได้วุ้นที่สีใส และที่สำคัญตอนต้มวุ้นกับน้ำตาลทรายต้องเช็คว่าผงวุ้น และน้ำตาลทรายละลายหมดแล้ว
9. การรักษาคุณภาพของวุ้น
หลายคนลองทำแล้วรู้สึกว่าวุ้นของเราทำไมมีอายุสั้นมากก! ซึ่งถ้าทำขายก็อยู่ได้เพียงไม่กี่วัน โดยเฉพาะวุ้นกะทิ (ซึ่งตามปกติของกะทิก็จะมีอายุสั้น เสียง่ายอยู่แล้วด้วย) โดยวุ้นส่วนใหญ่ที่เสียง่ายมักจะมาจากหลายสาเหตุทีเดียว
วุ้นกะทิ
เป็นวุ้นที่มักจะเสียง่ายที่สุด ข้อสำคัญคือจะต้องอยู่ที่การเลือกใช้กะทิ หากเราเลือกใช้กะทิสดอาจจะยิ่งเร่งเวลาทำให้วุ้นเสียเร็วได้ แต่หากใช้กะทิแบบพลาสเจอร์ไรท์ก็อาจจะต้องยอมว่าอาจจะได้กะทิที่ไม่สด กลิ่นไม่หอมเท่ากะสิสดจริงๆ แต่จะสะอาดกว่า และสามารถยืดระยะเวลาของวุ้นได้นานขึ้น ดังนั้นอาจจะต้องเลือกว่าเราอยากยืดอายุของวุ้นนานแค่ไหน
ผลไม้ในวุ้น
เช่นเดียวกันถ้าเราเลือกใช้ผลไม้แบบสดก็เสี่ยงที่ผลไม้จะเสียได้เร็ว ข้อแนะนำคืออาจจะใช้ผลไม้กระป๋อง หรือผลไม้แช่แข็งที่นำมาละลายน้ำแข็งแล้ว จะช่วยทำให้วุ้นมีอายุได้นานขึ้น
ทำเสร็จแล้วรีบเอาแช่ตู้เย็น
นอกจากความเย็นจะช่วยให้วุ้นเซ็ตตัวได้ดี และเร็วขึ้นแล้ว ยังทำให้ยืดอายุวุ้นได้นานกว่าการอยู่ในอุณหภูมิห้อง เพราะอย่าลืมไปว่าอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อน อาจจะเป็นตัวเร่งทำให้วุ้นเสียได้ ดังนั้นเมื่อวุ้นเย็นลงแล้วให้รีบใส่ตู้เย็นทันที
ควรแช่เย็นตลอด
ไม่ว่าเราจะทำขาย หรือทำทานเอง การควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญ และยังทำให้วุ้นมีรสชาติอร่อยเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นหากนำไปขายก็ควรมีกล่องโฟม หรือลังน้ำแข็งใส่ไว้ตลอด หรือหากแช่ทานกินเองก็ควรแช่ในตู้เย็นที่มีของไม่เยอะ และไม่ควรแช่รวมกับอาหารที่มีกลิ่น เพราะจะทำให้มีกลิ่นอาหารมาผสมกับวุ้นด้วย และเสียรสชาติความอร่อยไป
10. วุ้นคายน้ำ ปัญหาใหญ่ของการทำวุ้น
วุ้นคายน้ำคือเมื่อเราทำวุ้นเสร็จแล้ว ซึ่งจะเกิดเมื่อแกะออกจากพิมพ์แล้ว จะเห็นว่ามีน้ำคายออกมาจากวุ้น ทำให้วุ้นดูไม่สดใหม่ ไม่น่ากินเลย
เคล็ดลับของการทำให้วุ้นไม่คายน้ำคือเราจะต้องต้มวุ้นให้สุกทุกครั้ง คือวุ้นจะต้องเดือด คนจนไม่มีผงวุ้นมาติดทัพพีหรือช้อนคน และการเซ็ตตัวของวุ้นจะต้องอยู่ในอุณหภูมิห้องตามปกติ อย่าใจร้อนรีบเอาวุ้นที่ยังร้อนๆ เข้าตู้เย็น เพราะจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้วุ้นคายน้ำ
ดังนั้นถ้าไม่อยากเจอปัญหาวุ้นคายน้ำกับการทำวุ้นแฟนซีต้องใจเย็น แต่ถ้าใครใจเย็นไม่ไหวเคล็ดลับง่ายๆ คืออาจจะใช้พัดลมเป่าจะช่วยให้วุ้นเย็นลง และเซ็ตตัวได้เร็วขึ้น
สรุปท้ายบทความ
นี่คือ 10 เคล็ดลับที่ควรรู้ก่อนการทำวุ้นแฟนซี เพียงทุกคนต้องเริ่มต้นลงมือทำ และหมั่นสังเกตข้อผิดพลาดแต่ละครั้ง แล้วลองหาวิธีแก้ไขในรูปแบบของคุณเอง ซึ่งถ้าลงมือทำทำบ่อยๆ ฝึกฝนจนคุ้นชินกับปริมาณวัตถุดิบและการตกแต่งหน้าตาของวุ้นอยู่เป็นประจำ รับรองว่าคุณจะพลาดน้อยลง จนได้วุ้นแฟนซีที่ถูกใจ หน้าตาสวยงามแถมรสชาติยังยืนหนึ่ง
