ขนมต้ม ขนมไทยโบราณที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะมีรสหวาน และนุ่มละมุนลิ้น ผสมสานกับความหอมอ่อน ๆ ของกลิ่นมะพร้าว ที่กลมกลืนกับตัวแป้งนุ่ม ๆ ได้ดี ทำให้ขนมต้มกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในงานมงคล และยังสามารถซื้อขายได้ในราคาที่ถูกอีกด้วย
ในปัจจุบันขนมต้มถือว่าเป็นขนมที่ค่อนข้างที่จะหาทานได้ง่าย และสามารถทำได้ง่าย เพียงแค่ต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับการทำขนมให้พร้อม โดยเฉพาะขนมต้มสูตรโบราณที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำ ในบทความนี้ เราจะพาไปดูวิธีทำขนมต้มสูตรโบราณครบทุกขั้นตอน ที่รับรองว่าสามารถทำได้ง่าย ๆ และไม่ยุ่งยากแน่นอน
รู้จักกับประวัติขนมต้ม ขนมโบราณยอดนิยม
ขนมต้มเป็นขนมที่มีหลักฐานกล่าวอ้างว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในสมัยนั้นมักจะถูกนำไปใช้ในพิธีบรวงสรวง ไหว้ครู และเป็นขนมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งเข้ามาพร้อมกับศาสนาพราหมณ์ และลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า
โดยเชื่อกันว่าพระพิฆเนศนั้นโปรดขนมนี้มาก ครั้งหนึ่งเสวยเข้าไปจนเต็มพุง เมื่อขี่หนูกลับวิมาน ระหว่างทางหนูมาเจองู ตกใจจึงหยุดทันที พระพิฆเนศจึงตกจากหลังหนู พุงแตก พระพิฆเนศเสียดายขนมจึงกอบเข้าใส่พุงใหม่แล้วเอาซากงูที่ตีตายแล้วมาพันพุงไว้ แล้วจึงกลับไปวิมาน
ต่อมาขนมต้มได้มีบทบาทสำคัญในพิธีบวงสรวงเทวดา ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น ยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิ ในประเพณีสู่ขอแต่โบราณซึ่งบางท้องที่ใช้ขนมต้มด้วย ซึ่งขนมต้มนั้นมีความเชื่อว่าเป็นขนมมงคลที่จะทำให้กิจการที่ทำมีความเจริญรุ่งเรือง คนทำมาค้าขายจะขายดีขึ้นนั่นเอง
วิธีทำขนมต้มสูตรโบราณ
ขนมต้มจะมีแป้งที่มีความนุ่ม โดยใช้เป็นแป้งข้าวเหนียว โรยด้วยมะพร้าวขูดแล้วนำมาผสมเข้ากับเกลือ ตัวเครื่องด้านในนั้นจะทำมาจากมะพร้าวขูดที่ผัด กับน้ำตาลมะพร้าว ทำมีรสชาติของความหวาน และมีกลิ่นความหอมมาก ๆ หากได้นำมาทานคู่กันแล้วอร่อยถูกใจกันอย่างแน่นอน
ส่วนผสมขนมต้ม
- มะพราวขูด 300 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
- น้ำเปล่า
- แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
- น้ำใบเตย (สำหรับสีเขียว) 80 มิลลิลิตร
- หัวกะทิ
- มะพร้าว
- มะพร้าวขูด (สำหรับโรย) 100 กรัม
- เกลือป่น
ขั้นตอน และวิธีทำขนมต้ม
ขนมต้มส่วนใหญ่จะทำจากแป้งข้าวเหนียว โดยปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ใส่ไส้มะพร้าวขูด เคี่ยวกับน้ำตาลจนเหนียว นำไปต้มให้สุก และโรยด้วยมะพร้าวขูด ขนมต้มแบบดั้งเดิมนั้นจะเป็นขนมต้มสีขาว ซึ่งปัจจุบันมีการเพิ่มสีสันความสวยงาม เพื่อความน่าทานอีกด้วย
ขั้นตอนการทำขนมต้ม
- ขั้นตอนแรกให้นำมะพร้าวขูด น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่า ใส่ลงไปลงในกระทะ และเคี่ยวด้วยไฟกลาง กระทั่งอ่อน โดยเคี่ยวจนน้ำตาลปี๊บละลายให้หมด
- หลังจากน้ำตาลปี๊บละลายหมดแล้ว ให้ปรับใช้ไฟอ่อน จากนั้นผัดไส้ให้แห้ง เมื่อส่วนไส้แห้งแล้วให้ยกลงมาจากเตาะ และพักไว้ให้อุ่น
- หลังจากที่ไส้ขนมเย็นลงแล้ว ให้นำไส้มาปั้นเป็นก้อนกลมตามความต้องการ (ถ้าหากว่าต้องการจะให้ขนมนั้นมีความหอมเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถทำนำไปอบเทียนได้)
- สำหรับการทำแป้งห่อไส้ ให้ใช้แป้งข้าวเหนียว โดยทยอยใส่น้ำเปล่า หรือน้ำใบเตยลงไป
- จากนั้นให้นำหัวกะทิมาคนเข้าด้วยกัน เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้นวดไปเรื่อย ๆ และเพิ่มหัวกะทิเข้าไป วิธีนี้จะทำให้ตัวขนมนั้นหอมมากกว่าเดิม และยังทำให้แป้งเหนียวนุ่มน่าทานมากขึ้นอีกด้วย
- นำถุงพลาสติก หรือผ้าขาวบางมารอง เพื่อคลุมตัวแป้ง และทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที
- ขั้นตอนต่อมาให้ขูดมะพร้าวพร้อมกับนึ่งให้สุก จากนั้นนำมาคลุกกับเกลือเล็กน้อย เพื่อเตรียมตกแต่งหน้าขนม
- ทำการห่อขนมกับไส้ และปั้นให้เป็นก้อนกลม และต้มให้สุก ด้วยไฟกลาง จากนั้นให้ใส่ใบเตยลงไปเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับขนมต้ม
- เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ใส่ตัวขนมต้มลงไปในน้ำเดือด รอจนน้ำเดือดจนขนมลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ
- เมื่อขนมสุกจะมีการลอยตัวขึ้นมา จากนั้นให้ตักขนมต้มขึ้นมา และสะเด็ดน้ำให้แห้ง
- นำตัวแป้งไปคลุกกับมะพร้าวขูดที่เราได้เตรียมไว้ ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ ไปจนหมด
- เป็นอันเสร็จ และพร้อมรับประทานได้
ขนมต้มโบราณ ความอร่อยที่อยู่มาอย่างยาวนาน
ขนมต้ม เป็นอีกหนึ่งขนมไทยโบราณ ที่อยู่คู่กับอาหารไทยมาอย่างยาวนาน เพราะด้วยวิธีทำที่ไม่ยุ่งอยากอย่างที่คิด อีกทั้งยังสามารถทำให้มีสีสันตามชอบได้
นอกจากนั้นยังสามารถทานคู่กับขนมไทยชนิดอื่น ๆ ได้มากมาย เช่น ขนมกล้วย ขนมมันสำปะหลัง ขนมชั้น เป็นต้น สำหรับใครที่ชอบทานขนมไทยอยู่แล้ว ขนมต้มจึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อย และถูกใจแน่นอน