MM-cover-บทความ สูตรเบเกอรี่เกาหลี

10 สูตรเบเกอรีเกาหลีสุดฮิต [อัปเดตล่าสุด]

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

หากพูดถึงของหวานติดเทรนด์ที่พลาดไม่ได้ในช่วงนี้คงไม่พ้น “เบเกอรีเกาหลี” ความอร่อยยอดฮิตที่กลายเป็นกระแสบอกต่อความอร่อยกันอย่างล้นหลามในโลกโซเชียล ที่ไม่ว่าใครที่ได้เห็นรีวิวก็ต้องรีบไปตามไปพิสูจน์ความอร่อยกันในทันทีแน่นอน

แต่รู้หรือไม่ว่า ความอร่อยของเบเกอรีเกาหลีที่คุณเคยได้ลิ้มลองนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านเหมือนกัน 

บทความนี้พร้อมพาคุณรังสรรค์ความอร่อยด้วย 10 สูตรเบเกอรีเกาหลีสุดฮิตให้ได้ลองทำเองที่บ้าน ไม่ต้องเป็นจอมนางแห่งวังหลวง ก็อร่อยฟินเหมือนคนเกาหลีทำเองแน่นอน

“เบเกอรีเกาหลี” ฮิตแรงจนต้องอยากลองฟิน

ความฮิตของขนมเกาหลีก็เกิดจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน เพราะพฤติกรรมของคนในปัจจุบันมีการพบปะกันมากขึ้นตามคาเฟ่ หรือ ร้านกาแฟ ที่เป็นแหล่งสร้างสังคมให้ผู้คนได้พบปะกัน 

และคาเฟ่ที่นอกจากจะเป็นสถานที่นัดพบปะของผู้คนแล้ว ก็ต้องใส่ความอร่อยและความประทับใจลงไปในเมนูเบเกอรีต่างๆ เพื่อดึงให้คนกลับมาใช้บริการอีกครั้ง นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่นักรังสรรค์ความอร่อยของประเทศเกาหลี พยายามคิดค้น ผสมผสานความดั้งเดิมของขนมให้มีความแปลกใหม่เพื่อเรียกลูกค้าให้กลับมาใช้บริการอีกครั้งเช่นกัน

เบเกอรี่เกาหลีต่างจากเบเกอรีทั่วไปอย่างไร? 

การประยุกต์เมนูขนมเกาหลีถือเป็นจุดเด่นที่ยั่วน้ำลายเหล่านักชิมได้อย่างดี อีกทั้งยังดึงผู้คนให้หันมาลิ้มลองความอร่อยแบบพื้นบ้านได้อีกด้วย เพราะวัตถุดิบหลักของเมนูแสนอร่อยทั้งหลายนั้นมาจาก 

  • ถั่วแดง 
  • มันหวาน 
  • แป้งข้าวเหนียว 

ซึ่งต้องบอกเลยว่าวัตถุดิบหาง่ายใกล้บ้านแบบนี้ ทำเอาสายชิมติดใจกันอย่างล้นหลามเลยค่ะ 

นอกจากความอร่อยแบบแปลกใหม่แล้วชาวเกาหลียังคำนึงถึงสุขภาพด้วยเช่นกัน ทำให้ขนมต่างๆ ที่เราได้เห็นจะมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แม้ว่าคุณจะเน้นหวานแค่ไหน เชฟก็จะตัดเลี่ยนเสริมวิตามินให้ด้วยผลไม้นั่นเอง

10 สูตรเบเกอรีเกาหลีสุดฮิต ทำง่าย อร่อยจริง ท้าให้ลอง

ความฮิตติดกระแสของเบเกอรีเกาหลีไม่แผ่วลงง่ายๆ แน่นอน และเชื่อว่านักชิมหลายท่านก็คงอยากได้สูตรเบเกอรีเกาหลีมาท้าพิสูจน์ความอร่อยด้วยตัวเองที่บ้านกันสักตั้ง 

มาจดสูตรความอร่อยให้คุณได้ฟินถึงบ้านกับสูตรเบเกอรีเกาหลีสุดฮิต ที่ทำง่าย อร่อยด้วย ถ้าพร้อมแล้วมาเข้าครัวเป็นผู้ผลิตความอร่อยไปด้วยกันเลยค่ะ

1. อินจอลมี (โมจิเกาหลี) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

อินจอลมี (โมจิเกาหลี) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

เริ่มต้นด้วยขนมพื้นบ้านที่ต้องลอง “อินจอลมี” หรือโมจิเกาหลี ที่นิยมทำกินในช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศเกาหลี เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มมีความคล้ายคลึงกับโมจิญี่ปุ่น แต่ความโดดเด่นของเมนูนี้คือ ถั่วป่น ที่จะมาเติมเต็มความอร่อยของอินจอลมีให้เข้มข้นยิ่งขึ้น 

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  2. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  3. น้ำตาลทรายป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง หรือ 180 มิลลิลิตร
  5. ผงถั่วเหลืองอบแห้งสำเร็จรูป (ถั่วสับหรืออัลมอนต์ก็ได้เช่นกัน)

ขั้นตอนการทำ

  • เริ่มทำตัวโมจิด้วยการนำของแห้งอย่าง แป้งข้าวเหนียว เกลือ น้ำตาลทราย เทผสมเข้าด้วยกันในชามทนความร้อน แล้วตามด้วยน้ำเปล่า จากนั้นนวดส่วนผสมจนแป้งเป็นก้อน 
  • เมื่อนวดตัวแป้งได้ที่แล้วให้คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟประมาณ 3 นาที
  • เมื่อครบตามเวลาที่กำหนด ก็นำตัวแป้งออกมาคนผสมกันประมาณ 20 วินาที แล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารอีกครั้ง และนำไปเข้าไมโครเวฟอีก 1 นาที จากนั้นนำส่วนผสมออกมาคนผสมอีกประมาณ 1 นาที (ส่วนนี้สามารถนวดด้วยมือได้ แนะนำให้จุ่มมือในน้ำเย็นก่อน)
  • นำผงถั่วเหลืองอบแห้ง หรือถั่วสับที่เตรียมไว้มาโรยลงบนแป้ง นวดจนตัวแป้งเคลือบผงถั่วเหลืองทั่ว แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำก็จัดเสริฟได้เลยค่ะ

2. โฮต็อก (แพนเค้กเกาหลี) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

โฮต็อก (แพนเค้กเกาหลี) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

ต่อด้วยอีกเมนูขนมพื้นบ้านยอดฮิตในเกาหลี ที่นักชิมหลายประเทศก็อยากลิ้มลอง “โฮต็อก” หรือแพนเค้กเกาหลี ซึ่งเมนูนี้คนเกาหลีเองก็เคยบอกว่ามีหน้าตาคล้ายโรตีบ้านเราด้วย

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
  2. แป้งข้าวเหนียว 10 ช้อนชา
  3. น้ำอุ่น 1 ถ้วย
  4. ยีสต์ 2 ช้อนชา
  5. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  6. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลทรายแดง ½  ถ้วย
  9. วอลนัทสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ผงอบเชย 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

  • เริ่มทำตัวแป้งด้วยการนำ น้ำตาลทรายขาว ยีสต์ เกลือ น้ำมันพืชและน้ำอุ่นมาผสมและคนจนเข้ากัน จากนั้นใส่แป้งสาลีและแป้งข้าวเหนียวตามลงไป นวดจนตัวแป้งเข้ากันแล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักตัวแป้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าตัวแป้งจะขึ้นฟูเป็นสองเท่า
  • เมื่อตัวแป้งขึ้นฟูแล้วให้ทำการชกแป้งเพื่อไล่ลมออก และพักทิ้งไว้อีกประมาณ 20 นาที
  • ในส่วนของไส้ให้นำผงอบเชยมาคนผสมกับน้ำตาลทรายแดง และถั่วสับ จนเนื้อส่วนผสมเข้ากัน
  • เมื่อพักตัวแป้งครบตามเวลาที่ตั้งไว้แล้ว ให้แบ่งแป้งออกเป็น 8 ก้อน และปั้นเป็นก้อนกลมก่อนจะแผ่เป็นแผ่นแบน ตักไส้ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปแล้วห่อจนมิด (ปิดตัวไส้ให้ดี)
  • จากนั้นตั้งกระทะโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันเพื่อเตรียมทอด เมื่อกระทะร้อนได้ที่ก็ใส่แป้งลงไปทอด กดให้แบน ทอดจนไส้ละลายและสุกทั้งสองด้าน

3. เค้กโกกูม่า (เค้กมันเทศ) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

เค้กโกกูม่า (เค้กมันเทศ) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=6JPX26AkoJo

อีกหนึ่งความเลื่องลือของส่วนผสมที่เห็นแล้วต้องนึกถึงเกาหลีอย่าง “มันเทศ” ที่มีช่วงหนึ่งกลายเป็นที่ฮอตฮิตอย่างมากในกระแสโซเชียลอย่าง “มันหวานเผา” ถ้าจะกินเมนูเดิมอย่างมันหวานเผาอาจจะเอ้าท์ไปเสียหน่อย มาลองเมนูใหม่ๆ ที่ทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้านอย่าง “เค้กโกกูม่า” ไปพร้อมกันเลย

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. มันเทศ 480 กรัม (หรือ 1 หัวใหญ่)
  2. ขนมปังคาสเทลล่า 5 ถุง (ขนาด 11 x 7 ซม. ซื้อได้ตามเหมาะสม)
  3. วิปปิ้งครีม 9 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
  5. Heavy Cream 11 ช้อนโต๊ะ 

ขั้นตอนการทำ

  • นำมันเทศมาปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นในขนาดพอดี จากนั้นนำมันเทศไปอุ่นร้อนในไมโครเวฟ 5 นาที เมื่อมันเทศสุกแล้วในระดับหนึ่งในนำมาบดละเอียด (ใช้ช้อนบี้ได้) 
  • จากนั้นใส่น้ำตาลทราย หรือน้ำผึ้งตามลงไป คนให้เข้ากันก่อนจะตามด้วย Heavy Cream คนให้เข้ากันอีกครั้งจนเนื้อละเอียดดี
  • ต่อมาให้นำขนมปังคาสเทลล่ามาหั่นออกเป็น 3 ส่วนแนวยาว (หั่นส่วนสีน้ำตาลออกก่อนเพราะไม่ใช้) เมื่อหั่นตามนี้เรียบร้อย ให้นำถ้วยขนาดเล็ก หรือแก้วน้ำมาตัดขนมปังด้วยการกดลงบนตัวขนมปังที่เตรียมไว้ (เพื่อให้ได้ขนาดเค้กเป็นทรงกลมที่เหมาะสม)
  • เมื่อได้ขนาดของขนมปังที่ต้องการแล้วให้นำไส้มันเทศที่ผสมไว้ก่อนหน้ามาทาบนขนมปัง 2 แผ่นกลม แล้ววางซ้อนกันเป็นชั้น ปิดชั้นที่ 3 ด้วยแผ่นเปล่า
  • ปิดท้ายด้วยวิปปิ้งครีม ทาให้รอบชั้นขนมปังที่จัดไว้ แล้วเกลี่ยขอบให้สวยงาม เพิ่มลูกเล่นอีกนิดด้วยการนำเศษขนมปังที่เหลือมาขูดเป็นผง (ใช้กระชอนช่วยขูดได้) โรยหน้าเค้ก แล้วจบด้วยผลไม้สีสดอย่างเชอร์รี่เติมเต็มความอร่อย

4. คาราเมล ชิพปังชิพคอร์น (ขนมปังกรอบคาราเมล) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

คาราเมล ชิพปังชิพคอร์น (ขนมปังกรอบคาราเมล) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง
source: https://johorfoodie.com/caramel-bread-popcorn-snacks-recipe/

พูดถึงขนมเกาหลีฮิตติดกระแส ก็ต้องพูดถึง “ขนมปังกรอบคาราเมล” หรือที่คนเกาหลีเรียกกันว่า คาราเมลชิพปังชิพคอร์น ขนมปังกรอบที่หอมคลุ้งไปด้วยคาราเมล กินง่าย เคี้ยวเพลิน อร่อยจนหยุดกินไม่ได้เลย

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. ขนมปัง 5 แผ่น (ขนมปังกะโหลก หรือขนมปังทั่วไปก็ได้)
  2. นมสด 1 ทัพพี
  3. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  4. เนยสดเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  • หั่นขนมปังมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน แล้วนำขนมปังที่ตัดแล้วมาคั่วในกระทะจนสีเหลืองอมน้ำตาล (ให้ขนมปังกรอบ) จากนั้นยกลงจากเตามาพักไว้ก่อน
  • ต่อด้วยการเตรียมคาราเมล ใช้กระทะใบเดิมตั้งไฟที่พอเหมาะแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า ตั้งไฟจนน้ำและน้ำตาลเดือด เมื่อน้ำตาลละลายจนเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลแล้ว ให้ใส่เนยลงไปจนละลายได้ที่ก็ตามด้วยนมสดต่อ คนให้เข้ากัน และเคี่ยวต่อจนตัวคาราเมลเริ่มข้นเหนียวและมีสีเข้ม
  • เมื่อทุกอย่างได้ที่แล้วให้ใส่ขนมปังที่คั่วไว้ลงไปคลุกจนทั่ว จากนั้นยกลงจากกระทะลงมาพักตัวขนมไว้ โดยนำขนมปังมาผึ่งให้เย็นบนกระดาษไข พอขนมปังกรอบแห้งได้ที่แล้วก็เตรียมเสิร์ฟได้เลย

5. ซัลต็อกพาย (พายช็อกโกแลตหนึบ) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

ซัลต็อกพาย (พายช็อกโกแลตหนึบ) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง
ขอบคุณรูปภาพจาก Youtube

ใครที่ชอบความเหนียวหนึบของแป้งต็อก แต่ก็แอบรักความเข้มข้นของช็อกโกแลตต้องมาทางนี้ เพราะ เมนูซัลต็อกพาย ตอบโจทย์ความชอบคุณได้อย่างลงตัวแน่นอน ใครที่ยังไม่เคยลองก็อย่าช้าที่จะพิสูจน์ความอร่อยเพราะคุณจะฟินตั้งแต่คำแรกที่ได้ลิ้มลองแน่นอน

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. แป้งข้าวเหนียวเปียก 14 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำ 6 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1/2ช้อนโต๊ะ
  5. ดาร์กช็อกโกแลต (ละลาย)10 ช้อนโต๊ะ (หรือ 140 มิลลิลิตร)

ขั้นตอนการทำ

  • เริ่มจากการนำส่วนผสมอย่าง แป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และน้ำเปล่ามาใส่ชาม จากนั้นใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน แล้วนำพลาสติกมาคลุมชามส่วนผสมไว้ พร้อมเจาะรูประมาณ 4 – 5 รู ก่อนนำเข้าไมโครเวฟด้วยความร้อน 700 วัตต์ เป็นเวลา 3 นาที
  • เมื่ออุ่นร้อนเรียบร้อยแล้วให้นำส่วนผสมออกมาคนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วทำการปิดปากชามด้วยพลาสติก ก่อนนำเข้าไมโครเวฟด้วยความร้อน 700 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาทีอีกครั้ง
  • เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้โรยแป้งแห้งบนแท่นไม้ (หรือเขียง) เพื่อเตรียมการนวดแป้ง
  • นำแป้งต็อกที่เตรียมไว้ลงบนแท่นไม้ โรยด้วยแป้งแห้งด้านบนอีกครั้งแล้วเกลี่ยให้ทั่ว จากตัดแป้งต็อกเป็นชิ้นเท่าๆ กัน ก่อนจะนำดาร์กช็อกโกแลตแห้งมาสอดไส้ด้านใน แล้วปั้นปิดแป้งให้มิด 
  • ต่อด้วยส่วนของตัวช็อกโกแลตรอบนอก นำดาร์กช็อกโกแลตที่เตรียมไว้อีกส่วนไปละลาย
  • เมื่อได้ช็อกโกแลตแล้วให้นำนำแป้งต็อกที่ใส่ไส้แล้วมามาจุ่มลงในช็อกโกแลตให้ทั่ว พักจนช็อกโกแลตแห้งสนิท แล้วนำไปแช่ตู้เย็นข้ามคืน ซัลต็อกพายก็พร้อมเสิร์ฟ

6. กเยพีมันจู (ซินนาม่อนคุกกี้ไส้ถั่ว) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

กเยพีมันจู (ซินนาม่อนคุกกี้ไส้ถั่ว) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=m4cxLP8dv60&t=691s 

ชื่อเมนูอาจไม่คุ้นตา แต่ถ้าได้ลองจะต้องติดใจแน่นอนกับ ซินนาม่อนคุกกี้ไส้ถั่ว ขนาดเล็กพอดีคำแต่เต็มไปด้วยความอร่อยที่มาพร้อมคุณประโยชน์มากมาย อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเบเกอรีเกาหลีเลยก็ว่าได้ที่กินขนมแล้ว healthy ไปพร้อมกันได้

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. ถั่วลิมา 200 กรัม (หรือประมาณ 1 ถ้วยเล็ก) 
  2. เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
  3. นมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
  4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. แป้งอเนกประสงค์ 12 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทรายขาว 5 ½  ช้อนโต๊ะ
  8. เกลือ ⅛ ช้อนชา
  9. ผงซินนาม่อน 1 ช้อนโต๊ะ
  10. งาขาว และ งาดำ 3 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

  • นำถั่วลิมาแช่น้ำเย็นโดยต้องแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 วัน เมื่อครบตามเวลาดังกล่าวแล้ว ให้นำถั่วมาลอกเปลือกออกแล้วล้างน้ำสะอาด ก่อนจะนำถั่วไปต้มน้ำด้วยไฟกลาง ประมาณ 20 นาที (ถ้ามีฟองให้คนจนฟองลด)
  • ระหว่างรอถั่วต้มให้นำเนยจืดมาละลายในหม้อผสมเล็ก และตามด้วยนมข้นหวาน ไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา คนให้เข้ากัน (อย่าลืมสังเกตถั่วต้ม)
  • นำแป้งมาผสมลงในหม้อผสมเล็ก คนจนแป้งจับตัวกันเป็นก้อนเข้ากันได้ดีแล้วพักไว้ก่อน
  • มาต่อในส่วนของถั่วต้ม เมื่อใกล้ครบเวลาที่ตั้งไว้ให้เริ่มคนตัวถั่วลิมาแล้วใส่น้ำตาลทรายขาว กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา คนจนเป็นเนื้อเดียวกันทิ้งไว้สักพัก
  • จากนั้นนำแป้งแห้งมาโรยบนแท่นไม้หรือเขียงเพื่อเตรียมการนวดแป้ง นำแป้งที่ผสมไว้แล้วมาโรยแป้ง แล้วแบ่งออกเป็น 2 ก้อน นวดจนแป้งทั้ง 2 ก้อนเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนจะแผ่แป้งทั้งสองก้อนแล้วใส่ไส้ถั่วลิมาที่เตรียมไว้ แล้วทำการนวดบีบตัวแป้งให้ปิดไส้ให้ดี จากนั้นทำการนวดคลึงอีกครั้งให้แป้งกลมได้รูปดี
  • จากนั้นนำแป้งมานวดคลึงให้เป็นลักษณะเรียวยาว แล้วทำการตัดแบ่งชิ้นเป็นขนาดพอดีคำ ต่อด้วยการนำไข่แดงมาทาบนหน้าขนมแล้วโรยด้วยงาดำ หรืองาขาวตามชอบ
  • นำขนมที่เตรียมไว้เข้าอบที่ความร้อน 180 °C เป็นเวลา 20 นาที จากนั้นนำขนมมาผึ่งเย็นไว้สักพัก แล้วเตรียมเสิร์ฟได้เลย

7. โรลปัง (โดนัทเกลียว) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

โรลปัง (โดนัทเกลียว) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

พลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งขนมยอดฮิต “โรลปัง” หรือโดนัทเกลียว ที่ใครได้ลิ้มลองแล้วจะต้องฟินไปกับความนุ่มละมุนลิ้นอย่างแน่นอน เนื้อสัมผัสของโดนัทพร้อมกับผงซินนาม่อนที่เข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม จะทำให้คุณประทับใจได้อย่างไม่รู้ลืม 

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
  2. นมสด 16 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  6. ยีสต์ 2 ½ ช้อนชา
  7. แป้งอเนกประสงค์ 48 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมันข้าวโพด 6 ถ้วยตวง (96 ช้อนโต๊ะ หรือให้ได้ ¾ ของกระทะ)

ส่วนผสมเพิ่มเติม

  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผงซินนาม่อน 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  • เริ่มด้วยการนำเนยจืดมาละลาย เมื่อเนยจืดละลายแล้วให้ใส่นม น้ำตาล และเหลือตามไป คนให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้ว ใส่ไข่ไก่ตามลงไปตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วปิดท้ายด้วยยีสต์แล้วทำการคนอีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนจะพักไว้ประมาณ 5 นาที
  • จากนั้นนำแป้งอเนกประสงค์มาผสมรวมกับส่วนผสมข้างต้น คนจนแป้งจับตัวเป็นก้อน ก่อนจะนวดย้ำสักนิดแล้วพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง (อย่าลืมนำพลาสติกถนอมอาหารมาคลุมชาม)
  • เมื่อครบตามเวลาแล้ว ตัวแป้งจะฟูขึ้น นวดเนื้อแป้งให้เนียนนุ่มเป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้งก่อนจะทำการปิดด้วยพลาสติกอีกรอบแล้วพักทิ้งไว้อีก 40 นาที
  • จากนั้นนำแป้งแห้งมาโรยบนแท่นไม้ ก่อนนำแป้งที่พักไว้มานวดแล้วตัดแบ่งเป็นก้อน ก้อนไหนที่ปั้นกลมจนดีแล้วให้นำพลาสติกถนอมอาหารมาคลุมกันลมไว้อีกที
  • นำก้อนแป้งที่ปั้นไว้มาคลึงให้แป้งเป็นเส้นเรียวรี แล้วทำการปั้นบิดเกลียวให้ได้ทรงโดนัทเกลียว จากนั้นใช้เวลาอีก 30 นาทีในการพักแป้งไว้ โดยทำการพลิกแป้งที่ปั้นเกลียวไว้ทุก 10 นาที เพื่อให้ตัวแป้งฟูได้ดีในทุกด้าน เมื่อเวลาครบตามกำหนดให้ค่อยๆ กลิ้งตัวแป้งมาวางไว้บนถาดเพื่อเตรียมทอด
  • ตั้งกระทะโดยใช้น้ำมันข้าวโพด ด้วยความร้อนสูง เมื่อน้ำทันร้อนแล้วค่อยลดระดับไฟให้อยู่ในระดับกลาง จากนั้นใส่แป้งโดนัทที่เตรียมไว้ลงไป คอยดูว่าแป้งทอดได้ที่หรือยังแล้วทำกลางกลับด้าน ดูอย่างสม่ำเสมอ (อาจใช้เวลาทอดประมาณ 5 นาที) เมื่อสีเหลืองกรอบได้ที่ให้นำขึ้นมาพักน้ำมัน
  • เมื่อโดนัทสะเด็ดน้ำมันแล้ว ให้นำผงซินนาม่อนมาผสมกับน้ำตาลแล้วเขย่ารวมกันก่อนจะโรยไปบนโดนัทเกลียว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว

8. ออมเลทปัง (เค้กผลไม้ครีมสด) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

ออมเลทปัง (เค้กผลไม้ครีมสด) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=O66WH7aOw0o&feature=emb_title

ถ้าพูดถึงขนมเกาหลีจะพลาดเมนูไปไม่ได้เป็นอันขาด “ออมเลทปัง” หรือเค้กผลไม้ครีมสด แต่ครั้งนี้เราจะมาในรูปแบบคล้ายแซนด์วิชแพนเค้ก ห่อความอร่อยของครีมคัสตาร์ดที่ตัดความเลี่ยนด้วยผลไม้สด ทำให้เมนูนี้มีชีวิตชีวาตั้งแต่คำแรกที่ได้กิน

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

ส่วนผสมตัวเค้ก

  1. แป้งเค้ก 8 ช้อนโต๊ะ
  2. ไข่แดง 4 ฟอง  
  3. ไข่ขาว 4 ฟอง
  4. น้ำตาล 7 ช้อนโต๊ะ
  5. นมข้นจืด 1 ช้อนโต๊ะ
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

ส่วนผสมตัวคัสตาร์ดครีม

  1. นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
  3. ไข่แดง 4 ฟอง 
  4. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  • เริ่มวอร์มเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
  • จากนั้นนำน้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ มาตีผสมเข้ากับไข่แดงและกลิ่นวานิลลาจนขึ้นฟู แล้วพักไว้
  • นำไข่ขาวมาตีผสมกับน้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ จนไข่ขาวฟูตั้งยอดอ่อน จากนั้นนำส่วนผสมของไข่แดงที่พักไว้มาผสมรวมกับไข่ขาวคนให้พอเข้ากัน แล้วร่อนแป้งผสมตามไป คนจนเนื้อแป้งเข้ากันดีกับส่วนผสมอื่น
  • นำส่วนผสมของแป้งมาใส่ถุงบีบ แล้วทำการบีบให้เป็นทรงกลมตามขนาดที่ต้องการ แล้วนำเข้าเตาอบประมาณ 12 นาที เมื่อครบตามเวลาที่กำหนดแล้วให้นำตัวแป้งเค้กมาพักไว้ก่อน
  • ต่อด้วยไส้คัสตาร์ดครีม เริ่มด้วยการต้มนมให้เดือด ระหว่างรอนมเดือดได้ที่ให้นำไข่แดงมาผสมกับแป้งข้าวโพด และน้ำตาล ตีจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
  • เมื่อนมเดือดได้ที่แล้ว ให้นำมาเทผสมกับส่วนผสมของแป้งข้าวโพด แล้วทำการตั้งไฟกวนส่วนผสมดังกล่าวให้ข้นเป็นเนื้อคัสตาร์ดมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ที่แล้วให้พักไว้ก่อน
  • พอส่วนผสมของทั้งสองส่วนพร้อมแล้ว ให้นำไส้คัสตาร์ดที่เตรียมไว้มาหยอดลงบนตัวแป้งเค้กที่เตรียมไว้ก่อนจะทำการพับครึ่งแป้งเค้ก (ไม่ต้องบีบจนติดกัน) จากนั้นใส่ผลไม้สดตามใจชอบ หรือจะประยุกต์นำขนมชนิดอื่นมาประกอบเพิ่มก็ได้เช่นกัน

9. ต็อกสตอเบอรี่โยเกิร์ต (เค้กข้าวไส้สตอเบอรี่โยเกิร์ต) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

ต็อกสตอเบอรี่โยเกิร์ต (เค้กข้าวไส้สตอเบอรี่โยเกิร์ต) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=VNV0dktD3wY

เอาใจคนชอบขนมสไตล์โมจิด้วย ต็อกสตอเบอรี่โยเกิร์ต หรือเค้กข้าวไส้สตอเบอรี่โยเกิร์ต ที่ใครได้ลองแล้วต้องหลงรักกับความนุ่มหนึบของแป้งต็อก หอมชื่นใจกับสตอเบอรี่ สดชื่นได้อย่างเต็มคำแน่นอน 

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. วิปปิ้งครีม 5 ช้อนโต๊ะ
  2. โยเกิร์ตกรีกรสหวาน 6 ช้อนโต๊ะ
  3. แยมสตอเบอรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
  4. นมสตอเบอรี่ 16 ช้อนโต๊ะ (หรือ 240 มิลลิลิตร)
  5. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. แป้งข้าวเหนียว 13 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมันพืช 3 ช้อนชา 
  9. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  • นำวิปปิ้งครีมมาผสมกับโยเกิร์ตกรีกรสหวาน คนจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วตักใส่ถุงบีบ และนำสตอเบอรี่ใส่ถุงบีบแยกอีกถุง จากนั้นนำสองส่วนไปแช่เย็น
  • ต่อมาให้นำน้ำตาล และเกลือมาคนผสมกับนมสตอเบอรี่ก่อนจะนำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1.30 นาที โดยใช้ความร้อน 700 วัตต์ 
  • ในส่วนของแป้งต็อกให้นำแป้งข้าวเหนียวมาผสมกับนมสตอเบอรี่ที่เตรียมไว้ คนจนเป็นเนื้อเดียวกันก่อนจะนำพลาสติกถนอมอาหารมาครอบปากชามส่วนผสมแล้วทำการเจาะรูประมาณ 5 รู เพื่อนำไปอุ่นในไมโครเวฟ 2.30 นาที โดยใช้ความร้อน 700 วัตต์ 
  • เช็คตัวแป้งอีกครั้ง หากตรงขอบสุกแต่ตรงกลางยังไม่สุกให้ทำการแซะตรงขอบมาผสมกับส่วนที่ยังไม่สุก คนจะเข้ากันแล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟ 2.30 นาที โดยใช้ความร้อน 700 วัตต์ อีกครั้ง
  • เมื่อได้แป้งต็อกที่เหนียวหนึบมาแล้วให้ทำการคนและนวดด้วยไม้พายก่อน นวดจนเนื้อแป้งเนียนดูนุ่มน่าสัมผัส และยืดได้เหมือนชีส 
  • จากนั้นนำน้ำมันมาทาตรงบริเวณแท่นไม้ หรือถาดที่จะทำการนวดแป้งก่อนจะเอาตัวแป้งต็อกมานวดมือซ้ำจนแป้งฟูนิ่มขึ้น
  • ต่อด้วยการนำแป้งมันมาโรยให้ทั่วแล้วทำการนวดคลึงจนตัวขนมเป็นทรงรียาว จากนั้นทำการตัดแบ่งชิ้นต็อกแล้วนวดจนเป็นทรงกลมอีกครั้ง (นำพลาสติกถนอมอาหารมาคลุมแป้งที่ปั้นไว้แล้วเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง)
  • นำแป้งกลมมาแผ่ให้เป็นแผ่น (ใช้ที่นวดช่วยรีดเนื้อแป้งจะเนียนสวยกว่าใช้มือ) แล้วนำแผ่นที่แผ่ไปวางบนถ้วยขนาดเล็ก (เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซม.) แล้วทำการกดตรงกลางให้เป็นหลุม (ทาแป้งมันในถ้วยก่อนด้วยนะ) ก่อนจะนำวิปปิ้งครีมโยเกิร์ตและแยมที่เตรียมไว้ก่อนหน้ามาบีบใส่ลงไป จากนั้นทำการแนบขอบแป้งปิดไม่ให้ไส้ไหลออกมา
  • แล้วนำไปแช่แข็งประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็จะได้อร่อยฟินกับต็อกสตอเบอรี่โยเกิร์ตแล้ว

10. เครันปัง (ขนมปังหน้าไข่) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

เครันปัง (ขนมปังหน้าไข่) สูตรเบเกอรีเกาหลีที่ต้องลอง

มาถึงเมนูสุดท้ายแล้วกับ กับเบเกอรีสูตรเด็ดจากเกาหลีครองใจนักชิมทั่วสารทิศไม่ว่าจะเป็นสายหวาน หรือสายคาวก็ต้องยกนิ้วให้กับความน่ากินของเจ้า “เครันปัง” หรือขนมปังหน้าไข่ จะกินรองท้องยามเช้าก็ดี แก้หิวระหว่างวันก็โดน ที่สำคัญทำไม่ยาก เอาไปประยุกต์เพิ่มเติมในแบบที่ตัวเองชอบได้อีกด้วย 

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 6 ช้อนโต๊ะ
  2. ผงฟู 1 ช้อนชา
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  5. นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  7. เนยสด รสเค็ม 7 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมเพิ่มเติม

  1. ไข่ไก่ 6 ฟอง
  2. แฮม (หั่นลูกเต๋า) 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ชีสสไลด์ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ต้นหอม 1 ช้อนชา
  5. เกลือ ¼ ช้อนชา
  6. พริกไทย ¼ ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

  • เริ่มต้นด้วยการทำแป้งขนมปัง นำไข่ไก่ 1 ฟองมาตีให้เข้ากันกับน้ำตาลทราย เมื่อละลายเข้ากันดีแล้วให้เติมนมสด และกลิ่นวานิลลาลงไป ตามด้วยเนยสดรสเค็มละลายแล้ว แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน
  • จากนั้นร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์และผงฟูลงในถ้วยผสม ทำการตีให้ส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 
  • ต่อมาให้นำพิมพ์ฟรอยวางลงบนกระทะแบน (ยังไม่เปิดไฟ) แล้วเทแป้งขนมปังที่ผสมไว้ลงไป ก่อนจะตอกไข่ไก่ใส่ลงไปเพิ่ม โรยหน้าด้วยแฮม ชีสสไลด์ แล้วทำการปรุงรสต่อด้วยเกลือ พริกไทย ปิดท้ายด้วยต้นหอม
  • ก่อนตั้งไฟให้ทำการเทน้ำลงบนในกระทะเล็กน้อย เพื่อกันการเกิดกระทะไหม้ จากนั้นเปิดเตา แล้วปิดฝาอบเครันปัง โดยใช้เวลา 15 นาที เมื่อครบเวลาที่กำหนดก็เตรียมใส่จานเสิร์ฟความอร่อยได้เลย

สรุปท้ายบทความ

นักชิมหลายท่านต่างยกนิ้วให้กับความอร่อยสุดฟินตั้งแต่คำแรกที่ได้สัมผัส “เบเกอรี่เกาหลี” ขนมยอดฮิตติดกระแส ที่ได้รับความนิยมแบบก้าวกระโดดในตลาดเบเกอรี 

ด้วยความใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต ไปจนถึงไอเดียสร้างสรรค์เมนูเดิมๆ ให้มีสีสันดึงดูดใจคนรักของหวานได้อยู่หมัด จึงเป็นจุดเด่นของเบเกอรีที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และความฮิตติดกระแสนี้อาจเป็นตัวช่วยในการเปิดเส้นทางสร้างอาชีพให้คนที่ชื่นชอบในการรังสรรค์ความอร่อยได้เช่นกัน ลองนำหยิบสูตรความอร่อยที่คุณชอบมาปรุงแต่งความอร่อย รับรองได้เลยว่าขนมของคุณต้องอร่อยติดเทรนด์นักชิมสายหวานแน่นอนค่ะ

ebook-banner-1