เมนูขนมอบยอดฮิตอย่าง คุกกี้ บราวนี่ หรือมัฟฟิน หากได้ทานแบบออกมาจากเตาอบใหม่ๆ ขนมก็จะยังหอมกรุ่นจากเตา เพิ่มความอร่อยน่าทานแบบคูณสองไปเลย แล้วยิ่งเป็นขนมอบที่ทำจากฝีมือของคุณเองแล้ว ก็ช่วยเติมเต็มความสุขของวันนั้นได้อย่างเต็มอิ่มแน่ๆ
สำหรับใครที่มีเตาอบอยู่ที่บ้าน แล้วอยากลองทำขนมอบง่ายๆ ดูบ้าง เรามี 10 เมนูขนมอบที่คัดมาแล้วว่าทำได้ไม่ยาก ใช้เวลาไม่นาน ขั้นตอนไม่เยอะ เป็นมือใหม่หัดทำขนมก็ทำตามได้ แถมได้ขนมอบที่หอมอบอวลไปทั้งครัว เสริฟความอร่อยถูกใจให้ทุกคนที่ได้ทานอย่างแน่นอน
10 เมนูขนมอบ ทำง่าย ใช้เวลาน้อย
1. คุกกี้เนยสด
คุกกี้เป็นเมนูขนมอบยอดฮิตที่ใช้ส่วนผสมน้อย ะมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่เยอะ โดยเฉพาะคุกกี้เนยสดเมนูขนมอบที่ใครๆ ก็ทานได้
เหมาะกับเป็นเมนูของหวานยามว่าง จะเลือกทานคู่กับกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มร้อนก็เข้ากันเป็นอย่างดี เพราะคุกกี้เนยสดจะมีรสชาติทั้งหวานเค็มลงตัว ตัดกับความมันของเนย ทำให้ง่าย อร่อยถูกใจคนทานแน่นอน
ส่วนผสมคุกกี้เนยสด
1. แป้งอเนกประสงค์ 240 กรัม
2. น้ำตาล 90 กรัม
3. เนยจืด 200 กรัม
4. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
5. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำคุกกี้เนยสด
- นำแป้งอเนกประสงค์ และผงฟู มาร่อนด้วยกันเพื่อให้แยกเศษผงต่างๆ ที่อาจจะปนมาในแป้ง หรือแยกแป้งที่เป็นเม็ดใหญ่ๆ ออก เพื่อให้ได้แป้งที่เนื้อละเอียดมากขึ้น
- วอร์มเตาอบรอไว้ก่อนที่ไฟบนล่าง ในอุณหภูมิ 175 องศา
- นำเนยจืดมาตีให้ขึ้นฟูเล็กน้อย ตามด้วยใส่น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลาตามลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้คุกกี้ จากนั้นตีให้ส่วนผสมทั้งหมดพอเข้ากัน
- ค่อยๆ ทยอยใส่แป้งอเนกประสงค์ที่ผสมผงฟูแล้วลงไปตีกับเนย โดยอาจจะแบ่งใส่เป็นรอบๆ ประมาณ 3 รอบ เพื่อให้ตีเนยผสมง่ายขึ้น และได้เนื้อคุกกี้ที่ละเอียดมากขึ้น
- เมื่อตีส่วนผสมเข้ากันแล้วให้เตรียมภาชนะสำหรับใส่อบ
- ตักคุกกี้ใส่บนถาดอบ โดยกะขนาดของคุกกี้ 1 ชิ้น ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แบ่งให้แต่ละชิ้นมีขนาดเท่าๆ กัน
- นำเข้าเตาอบประมาณ 15 นาที
- เมื่ออบเสร็จแล้ว ให้นำคุกกี้ออกมาพักทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที เพื่อรอให้คุกกี้เริ่มเซ็ตตัวและแข็งขึ้นก่อน แล้วจึงค่อยแซะออกจากถาด
- เมื่อแซะออกจากถาดแล้ว ให้นำวางบนตะแกรงเพื่อคลายความร้อน เมื่อเย็นแล้วแนะนำให้ใส่เก็บใส่ขวดโหล เตรียมเสิร์ฟได้เลย
2. บราวนี่
ถ้าพูดถึงเมนูขนมอบเนื้อช็อกโกแลตที่ใครชื่นชอบ ก็คงหนีไม่พ้นบราวนี่แสนอร่อย ซึ่งเป็นขนมหวานที่หาทานง่าย และทำเองก็ทำได้ง่ายด้วยเช่นเดียวกัน
โดยบราวนี่ก็เป็นเมนูขนมอบที่สามารถนำไปดัดแปลงปรับสูตรได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบราวนี่กรอบ บราวนี่ชีสเค้ก บราวนี่ชาเขียว แล้วแต่เลยว่าใครจะชอบรับประทานรสชาติแบบไหน โดยเราจะมาแนะนำสูตรทำบราวนี่แบบธรรมดาที่หลายคนนิยมทานกันค่ะ
ส่วนผสมบราวนี่
- แป้งอเนกประสงค์ 125 กรัม
- ผงโกโก้ 30 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ดาร์คช็อกโกแลต 85 กรัม
- น้ำตาลทราย 180 กรัม
- เนยเค็ม 125 กรัม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
- อัลมอนสไสด์ 1/3 ถ้วยตวง
ขั้นตอนการทำบราวนี่
- นำดาร์คช็อกโกแลต และเนยเค็มมาละลายด้วยกัน โดยอาจจะใช้ไมโครเวฟไฟอ่อนในการละลาย หรือละลายโดยการใช้วิธีตุ๋น ด้วยหม้อซ้อนสองชั้นแบบไฟอ่อน แล้วจึงคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน พร้อมพักทิ้งไว้ให้หายร้อน
- ร่อนส่วนผสมแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู และโกโก้ให้เข้ากัน ระหว่างนี้แนะนำให้เปิดเตาอบวอร์มไฟไว้ก่อนที่อุณหภูมิ 180 องศา
- ตีไข่ไก่ เกลือ และน้ำตาลเตรียมไว้ ตีไปเรื่อยๆ จนกว่าส่วนผสมทั้ง 3 จะเข้ากันกลายเป็นสีอ่อน และขึ้นฟู
- ค่อยๆ เทช็อกโกแลต และกลิ่นวนิลาลงไปในไข่ที่ตีแล้ว จากนั้นคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- ทยอยใส่แป้ง ผงฟู และโกโก้ที่ร่อนแล้วลงในชามผสม พร้อมใช้ไม้พายค่อยๆ ตะล่อมแป้งให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- เทแป้งที่ได้ลงถาดที่รองด้วยกระดาษไข เพื่อกันการติดถาดของตัวบราวนี่ เสร็จแล้วเกลี่ยเนื้อขนมให้เรียบร้อยให้ทั้งถาดหน้าเรียบเสมอกัน
- ใส่อัลมอนด์สไลด์โรยบนหน้า
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิไฟบนล่าง 180 องศา อบประมาณ 25-30 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้วนำออกจากเตาอบ พักให้เย็นลงจึงตัดแบ่งเสิร์ฟเป็นชิ้นๆ
3. คุกกี้บราวนี่
เมนูบราวนี่ที่ดัดแปลงให้มีลักษณะเป็นคุกกี้ กลายเป็นเมนูขนมอบอีกรูปแบบพอดีคำที่หยิบทานง่าย และอร่อยมาก เพราะเป็นคุกกี้บราวนี่สูตรหน้าฟิล์ม แบบหน้ากรอบที่เนื้อนุ่ม รสชาติพอดี ใครที่ชอบความเข้มข้นต้องถูกใจสูตรนี้เลย
ส่วนผสมคุกกี้บราวนี่
- ดาร์กช็อกโกแลต 120 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 47 กรัม
- เนยจืด 30 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ผงโกโก้ 6 กรัม
- ผงฟู 2 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำคุกกี้บราวนี่
- นำดาร์กช็อกโกเเลต กับเนยจืดละลายไปละลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือให้เข้าด้วยกัน
- นำส่วนผสมไข่ไก่ น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลาใส่ลงไปในชามผสม และตีให้ทั้งหมดเข้ากัน
- นำเนยกับช็อกโกแลตที่ละลายเรียบร้อยแล้วในอุณหภูมิอุ่นๆ ค่อยๆ ใส่ลงไปในชามผสมที่มีไข่ไก่ และน้ำตาลทราย แนะนำว่าต้องค่อยๆ ทยอยใส่ เพื่อไม่ให้ไข่สุก
- ใส่แป้งฟู ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือที่ร่อนแล้วลงในชามผสม ตะล่อมผสมให้เข้ากันทั้งหมด
- เตรียมถาดสำหรับอบ พร้อมกระดาษไขวางให้เรียบร้อย ก่อนจะตักแป้งคุกกี้มาวาง ชิ้นละประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
- นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที และพักทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นคุ้กกี้บราวนี่ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
4. เค้กกล้วยหอม
เค้กกล้วยหอมอีกหนึ่งเมนูขนมอบแบบกล้วยๆ สมชื่อ ที่มีขั้นตอนการทำไม่ยาก หากใครมีกล้วยหอมที่ซื้อมาแล้วทานไม่ทัน ก็นำมาแปรรูปให้เป็นเค้กกล้วยหอมได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกล้วยหอมที่กำลังสุกงอม ก็ยิ่งมีรสชาติหวานอร่อยจากกล้วยแบบธรรมชาติเลย
ส่วนผสมเค้กกล้วยหอม
- แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เบกกิงโซดา 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- นมสด 120 มิลลิลิตร
- กล้วยหอมแบบงอม 200 กรัม
- เนยจืด 80 กรัม
ขั้นตอนการทำเค้กกล้วยหอม
- ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือเข้าไว้ด้วยกัน
- นำไข่ไก่ และน้ำตาลทรายมาตีเข้าด้วยกันจนขึ้นฟู
- ใส่เนยจืดที่ละลายแล้ว ตามด้วยนมสด และกล้วยหอมแบบงอมที่บดแล้วให้เข้าด้วยกัน
- ใส่เหล่าของแห้งที่ร่อนเอาไว้แล้ว มาตะล่อมผสมให้เข้ากัน
- นำแป้งที่ผสมเสร็จแล้ว มาใส่พิมพ์ที่เตรียมเอาไว้ แนะนำให้ตักใส่แค่เพียง 3/4 ของพิมพ์ เพื่อเว้นพื้นที่ไว้ให้แป้งเค้กกล้วยหอมขึ้นฟู
- นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาไฟบนล่าง 20 นาที จากนั้นนำเค้กกล้วยหอมที่สุกแล้ว ออกมาพักไว้ให้หายร้อนก่อนนำเสิร์ฟ
5. มัฟฟินช็อกโกแลต
มัฟฟินเป็นเมนูขนมอบที่ทำได้ง่าย ไม่แพ้เค้กกล้วยหอมเลย โดยเฉพาะใครที่เป็นสายช็อกโกแลตจะต้องถูกใจมัฟฟินช็อกโกแลตอย่างแน่นอน เพราะเป็นเมนูขนมอบที่ทานแล้วอิ่มท้องสำหรับมื้อเช้า หรือเป็นขนมว่างเสิร์ฟพร้อมกับกาแฟ หรือชาก็อร่อยลงตัวสุดๆ
ส่วนผสมมัฟฟินช็อกโกแลต
- แป้งอเนกประสงค์ 140 กรัม
- ดาร์กช็อกโกแลต 85 กรัม และอีก 20 กรัม สำหรับใช้โรยหน้าขนม
- ผงโกโก้ 35 กรัม
- น้ำตาลทราย 125 กรัม
- เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
- ผงฟู 1/4 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 30 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- นมจืด 150 กรัม
- เนยจืด 25 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
ขั้นตอนการทำมัฟฟินช็อกโกแลต
- นำเนย และดาร์คช็อกโลแลตไปละลายให้เข้ากัน
- ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ โกโก้ และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน พร้อมวอร์มเตาอบเตรียมไว้
- นำไข่ไก่ และน้ำมันพืชมาตีให้เข้ากันก่อน แล้วจึงใส่นมจืด พร้อมกับใส่กลิ่นวานิลลาตามลงไป
- ใส่เนยกับช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว ลงไปผสมเข้าด้วยกันกับไข่ไก่
- ใส่แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ โกโก้ และเบกกิ้งโซดาที่ร่อนแล้ว พร้อมกับน้ำตาลทรายผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปผสมกับไข่ที่เตรียมเอาไว้แล้ว โดยค่อยๆ ตะล่อมให้ทั้งหมดเข้ากัน
- ตักแป้งมัฟฟินใส่ลงในถ้วยอบที่รองด้วยกระดาษไข และโรยหน้าด้วยดาร์คช็อกโกแลต
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศา อบประมาณ 25 นาที เมื่อครบเวลา ก็นำมัฟฟินหอมๆ ออกมาพักให้หายร้อน ก่อนจะยกเสิร์ฟ
6. สโคน
เมนูขนมอบสำหรับจิบชายามบ่ายแบบฉบับผู้ดีอังกฤษขนานแท้ แน่นอนว่าจะเป็นอะไรไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “สโคน” ซึ่งเป็นเมนูขนมอบที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่มาก โดยเมื่ออบเสร็จแล้วขอแนะนำให้ทานคู่กับแยมรสชาติที่คุณชอบ โปะด้วยคลอตเต็ดครีมอีกชั้น ก็ยิ่งเพิ่มรสชาติให้สโคนมีความหอมมัน หวานอร่อยยิ่งขึ้นแน่นอน
ส่วนผสมสโคน
- แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 25 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- เนยจืด 40 กรัม
- นมสด 50 กรัม
- ครีมสด 100 กรัม
ขั้นตอนการทำสโคน
- ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือเข้าด้วยกัน
- วอร์มเตาไฟบนล่าง 200 องศาเตรียมรอไว้ก่อน
- นำน้ำตาลลงไปผสมกับของแห้งที่เราร่อนไว้ก่อนหน้านี้
- หั่นเนยเป็นชิ้นเล็กๆ และไปผสมไว้กับแป้ง ตะล่อมให้เข้ากันจนรู้สึกว่าแป้งเป็นเม็ดเล็กๆ
- นำนมสด และครีมสดมาผสมกับแป้งให้เข้ากัน
- เตรียมพื้นที่สำหรับกดแป้ง โดยโรยแป้งให้ทั่วบริเวณ ก่อนจะนำแป้งออกมาคลึงให้หนาประมาณ 1 นิ้ว
- ใช้แม่พิมพ์วงกลมตัดแป้งออกมาเป็นชิ้นๆ ให้มีลักษณะคล้ายๆ คุกกี้ทรงกลม
- เตรียมนำอบ โดยวางกระดาษไขรองก่อนวางชิ้นสโคน
- นำเข้าอบประมาณ 15 นาที เมื่ออบเรียบร้อยแล้วให้พักทิ้งไว้จนเย็นลง เตรียมเสิร์ฟด้วยการใช้มีดผ่ากลางชิ้นสโคนให้ออกเป็น 2 ซีก แล้วทาแยมรสสตอเบอร์รี่หรือแยมสชาติที่ชอบ พร้อมกับคลอตเต็ดครีม
7. บาสก์ชีสเค้ก
ถ้าพูดถึงเมนูขนมอบที่ใช้ครีมชีส แน่นอนว่าบาสก์ชีสเค้กก็จะต้องเป็นเมนูขนมอบยอดนิยม ไม่แพ้ขนมอื่นๆ เลย เพราะเป็นขนมที่มีความอร่อยครบหลายรสชาติ ซึ่งดูเหมือนจะทำยาก แต่บอกเลยว่าทำตามได้ง่ายมาก
ส่วนผสมบาสก์ชีสเค้ก
- ครีมชีส 500 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 30 กรัม
- น้ำตาลทราย 170 กรัม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา1 ช้อนชา
- นมข้นจืด 180 มิลลิลิตร
- วิปปิ้งครีม 120 มิลลิลิตร
ขั้นตอนการทำบาสก์ชีสเค้ก
- วอร์มเตาอบไฟบนล่าง ที่ 200 องศา
- นำครีมชีสมาตีให้นุ่ม ก่อนจะใส่น้ำตาลทราย และตีต่อให้เข้ากัน
- ใส่เกลือ กลิ่นวานิลลา และใส่ไข่ไก่ตามลงไป ก่อนจะตีให้ทั้งหมดเข้ากัน
- ค่อยๆ เทนมข้นจืด และวิปปิ้งครีมตามลงไป พร้อมกับผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ร่อนแป้งอเนกปสงค์ลงไป และค่อยๆ ตะล่อมให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- นำส่วนผสมที่เข้ากันแล้วเทลงในพิมพ์ และนำไปอบประมาณ 1 ชม. หรือจนกว่าเค้กจะสุกดี
- เมื่อครบเวลาแล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนจะนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เค้กเซ็ตตัวดีก่อนนำเสิร์ฟ
8. คุกกี้ธัญพืช
เอาใจสายรักสุขภาพกันบ้างกับเมนูขนมอบทำง่าย อย่างคุกกี้ธัญพืช ที่รวบรวมเอาเหล่าธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเอาไว้ด้วยกัน หรือหากใครมีธัญพืชที่ชอบทานรก็สามารถใส่เพิ่มเติมได้เลย
ในสูตรนี้ได้เปลี่ยนจากการใช้น้ำตาล มาเป็นน้ำผึ้งให้ความหวานแทน สำหรับใครที่ไดเอทแต่อยากทานขนมหวานคุกกี้ธัญพืชก็ตอบโจทย์ที่สุดเลยค่ะ
ส่วนผสมคุกกี้ธัญพืช
- ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 150 กรัม
- ข้าวโอ๊ตแบบเมล็ด 90 กรัม
- แครนเบอร์รี่อบแห้ง 50 กรัม
- เมล็ดฟักทอง 50 กรัม
- อัลมอนด์สไลด์ 50 กรัม
- ธัญพืชอื่นๆ ตามใจชอบ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำมันมะพร้าว 50 มิลลิลิตร
- น้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวาน 70 มิลลิลิตร
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำคุกกี้ธัญพืช
- วอร์มเตาอบไฟบนล่างไว้ที่อุณหภูมิ 300 องศา
- นำน้ำมันมะพร้าว กับน้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานผสมลงในชามผสมก่อนจะนำไปอุ่น ให้ละลายพอเข้ากัน
- ใส่ข้าวโอ๊ตแบบบดละเอียด และแบบเมล็ดมาผสมให้เข้ากัน ก่อนจะตามด้วยธัญพืชอื่นๆ ทั้งแครนเบอร์รีอบแห้ง เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์สไลด์ และเกลือ ตามลงไป
- นำไข่ไก่ และน้ำมันมะพร้าวลงไปผสม และคนจนเข้ากัน
- นำถาดที่ปูกระดาษไขมาเตรียมอบ โดยตักแบ่งเนื้อคุกกี้ลงไปขนาดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
- นำเข้าเตาอบประมาณ 15-20 นาที จากนั้นนำคุ้กกี้ธัญพืชหอมๆ ออกมาพักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
9. ขนมปังอบเนยกรอบ
เมนูขนมปังที่นำมาอบเพิ่มความอร่อยให้มากขึ้น โดยเฉพาะใครที่ซื้อขนมปังมาแล้วทานไม่ทัน กลัวจะหมดอายุไปเสียก่อน แนะนำว่าให้นำมาทำเป็นขนมปังกรอบอบเนยก็จะช่วยเพิ่มความอร่อย และยืดอายุเก็บไว้ทานได้นานขึ้นด้วย
ส่วนผสมขนมปังกรอบอบเนย
- ขนมปังแผ่น 1 แถว
- เนยจืด 60 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
ขั้นตอนการทำขนมปังกรอบอบเนย
- นำขนมปังมาหั่นบาง จะตัดขอบทิ้ง หรือหั่นเก็บไว้ก็ตามใจชอบ
- เปิดเตาอบ วอร์มทิ้งไว้ไฟบนล่างที่อุณหภูมิ 160 องศา
- นำขนมปังเรียงใส่ถาด และนำไปอบประมาณ 5 นาทีเพื่อไล่ความชื้น อบเสร็จแล้วก็พักไว้ให้เย็น
- หลังจากนั้นทาเนยจืดบนหน้าขนมปัง ก่อนจะชุบน้ำตาลให้ทั่วทั้งแผ่น
- นำเข้าเตาอบอีกครั้ง อบที่อุณหภูมิ 160 องศา ประมาณ 15-20 นาที
- ครบเวลาแล้วก็นำขนมปังกรอบท่ีหอมเนยอบอวลไปทั้งครัว ออกมาพักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟแล่วค่ะ
10. ขนมปังเนยกระเทียม
หากใครอยากทานขนมปังกรอบที่หวานน้อยลง และมีรสชาติจากเครื่องเทศ แนะนำเป็นเมนูขนมปังเนยกระเทียมที่จะได้ทั้งความมันจากเนย และเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยกระเทียม รับรองเลยว่าใครได้ทานจะต้องติดใจแน่นอนค่ะ
ส่วนผสมขนมปังเนยกระเทียม
- ขนมปัง
- เนยเค็ม 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- กระเทียมสับ 30 กรัม
- พาร์สลีย์ 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำขนมปังเนยกระเทียม
- นำขนมปังมาตัดเป็นชิ้นขนาดพอดี โดยจะตัดขอบหรือเก็บไว้ก็ได้ตามใจชอบ
- เปิดเตาอบ วอร์มทิ้งไว้ไฟบนล่างที่อุณหภูมิ 160 องศา
- นำขนมปังเรียงใส่ถาด และนำไปอบประมาณ 5 นาทีเพื่อไล่ความชื้น อบเสร็จแล้วก็พักไว้ให้เย็น
- นำเนยเค็มกับน้ำตาลทราย มาตีเข้าด้วยกันจนฟูขึ้นเล็กน้อย
- นำกระเทียมที่ปั่นแล้วใส่ลงไปในชามผสมเนย ตามด้วยพาร์สลีย์สับ และตะล่อมผสมจนเข้ากัน
- ทาเนยกระเทียมลงไปบนหน้าขนมปัง
- นำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศา ประมาณ 10 นาที เสร็จแล้วพร้อมนำเสิร์ฟ ขนมปังกระเทียมกรุบกรอม หอมกลิ่นเนยและกระเทียมสุดแสนน่ารับประทาน
สรุปท้ายบทความ
และนี่คือ 10 เมนูขนมอบ ที่เรานำมาเสิร์ฟให้หลากหลาย ที่บ้านของใครมีเตาอบก็ทำตามได้ง่ายๆ เลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าเมนูขนมอบใช้วัตถุดิบน้อย ใช้เวลาในการทำไม่นาน แถมยังปรับเปลี่ยนสูตรใส่โน่น เพิ่มนี่เข้ามา ให้ขนมอบของคุณมีความอร่อยได้ดั่งใจเลยล่ะค่ะ