MM-cover-บทความ เมนูขนมไม่ใช้เตาอบ

10 เมนูขนมไม่ใช้เตาอบ ง่ายๆ เริ่มทำได้เลย

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

ใครที่กำลังมองหาไอเดียทำขนมทานเองที่บ้าน ด้วยเมนูง่ายๆ เตรียมวัตถุดิบไม่เยอะ แต่กลับอร่อยได้แบบไม่ต้องพึ่งเตาอบ เราได้นำ 10 ไอเดียเมนูขนม ที่ไม่ต้องใช้เตาอบมาเสิร์ฟที่นี่แล้ว

ด้วย 10 ขนมหลายสัญชาติ ทั้งจากต่างประเทศและขนมไทยที่ทำได้ด้วยส่วนผสมไม่เยอะ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญใช้อุปกรณ์แค่เพียงไม่กี่ชิ้น ก็ทำให้คุณได้ทานเมนูขนมที่ไม่ต้องพึ่งเตาอบที่สุดแสนอร่อย จะทานเป็นเมนูมื้อเช้า มื้อระหว่างวัน ก็ทานได้เพลินๆ ถูกใจทั้งคนทำ และคนทานแน่นอนค่ะ

10 เมนูขนมไม่ใช้เตาอบ ทำตามได้เลย

1. บานอฟฟี่

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 1 บานอฟฟี่

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบยอดฮิตที่มีรสชาติหวานละมุนด้วยคาราเมล หอมกลิ่นกล้วย และกรอบอร่อยไปพร้อมกันในคำเดียว ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมาก แม้จะมีหลายเลเยอร์ แต่มือใหม่ที่เพิ่งหัดทำขนมก็สามารถทำได้สบาย

ส่วนผสมบานอฟฟี่

ฐานแครกเกอร์

  1. แครกเกอร์ 100 กรัม (หรือจะใช้เป็นโอริโอ้ก็ได้ ตามชอบ)
  2. เนยเค็ม 80 กรัม

คาราเมล

  1. น้ำตาลทราย 200 กรัม
  2. วิปปิ้งครีม 180 กรัม
  3. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  4. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  5. เนยเค็ม 80 กรัม
  6. นมข้นหวาน 1/2 ช้อนชา

กล้วยหอม

  1.  กล้วยหอมสุก 6 ลูก


ชั้นวิปปิ้งครีม

  1. วิปปิ้งครีม 300 กรัม
  2. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
  3. กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา

วิธีลงมือทำบานอฟฟี่

  1. เริ่มต้นด้วยการทำคาราเมลก่อน ด้วยการตั้งไฟอ่อนแล้วจึงใส่น้ำตาลทรายในหม้อต้ม ห้ามใช้ไฟแรง และห้ามคนเพราะจะทำให้น้ำตาลราคาเมลมีรสชาติขม เมื่อน้ำตาลทรายเริ่มละลายหมดจนเริ่มเป็นสีน้ำตาลเข้มแล้ว ให้เปิดไฟอ่อนลง
  2. ค่อยๆ ใส่วิปปิ้งครีมตามลงไปเพื่อลดอุณหภูมิคาราเมล แล้วคนให้เข้ากันกับน้ำตาล
  3. ใส่เกลือ ตามด้วยเนย กลิ่นกลิ่นวานิลลา คนเรื่อยๆ จนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ก่อนจะปิดไฟ และใส่นมข้นหวานตามลงไป ก่อนจะนำไปพักไว้ให้เย็น
  4. มาเตรียมชั้นฐานของบานอฟฟี่ ด้วยการนำแครกเกอร์ใส่ถุงและบดให้ละเอียด แนะนำถ้าใครมีเครื่องปั่นให้ใช้เครื่องปั่นได้เลย จะช่วยให้ได้ฐานที่ละเอียดมากขึ้น
  5. นำเนยเค็มไปละลาย และผสมลงไปกับแครกเกอร์ให้เข้ากัน ก่อนจะนำไปกรุลงในถ้วยเสริฟชั้นล่างสุด โดยกดลงแค่พอประมาณ ไม่จำเป็นต้องแน่นมาก และจึงนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้แครกเกอร์เซ็ตตัวประมาณ 30 นาที
  6. เตรียมวิปปิ้งครีมชั้นบนสุด ใส่วิปปิ้งครีมตามด้วยกลิ่นวานิลลา น้ำตาลไอซิ่ง และตีส่วนผสมทั้งหมดให้เร็วจนวิปปิ้งครีมตั้งยอด
  7. นำกล้วยหันเป็นแว่นๆ และจัดลงถ้วยที่มีแครกเกอร์แล้ว ก่อนจะตามด้วยคาราเมล และปิดท้ายด้วยวิปปิ้งครีมด้านบน พร้อมโรยด้วยผงโกโก้บนหน้าให้สวยงาม

2. วุ้นกะทิใบเตย

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 2 วุ้นใบเตย

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบที่สุดแสนจะทำได้ง่ายอย่างวุ้นกะทิใบเตย ที่มีรสชาติหวานมันกรุบกรอบ มาพร้อมกลิ่นหอมใบเตย ที่จะช่วยเติมความสดชื่นขณะทานได้เป็นอย่างดี 

ส่วนผสมวุ้นกะทิใบเตย

ชั้นวุ้นใบเตย

  1. ใบเตย
  2. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  4. ผงวุ้นตรานางเงือก 5 กรัม

ชั้นวุ้นกะทิ

  1. น้ำกะทิ 200 กรัม
  2. น้ำเปล่า 200 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  4. ผงวุ้นตรานางเงือก 5 กรัม
  5. เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำวุ้นกะทิใบเตย

  1. นำใบเตยที่หั่นชิ้นแล้วลงไปปั่นกับน้ำเปล่าให้พอละเอียด หลังจากนั้นจึงกรองน้ำใบเตยด้วยผ้าขาวบาง และกรองน้ำให้ได้น้ำใบเตยเข้มข้น
  2. นำผงวุ้นตรานางเงือก ใส่ลงในน้ำใบเตย และคนจนผงวุ้นละลายดีหมด
  3. นำน้ำใบเตยที่ผสมวุ้นแล้วขึ้นตั้งไฟกลาง ก่อนจะใส่น้ำตาล และคนไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายหมด
  4. ปิดไฟ เทน้ำใบเตยลงใส่พิมพ์ หากมีฟองให้ช้อนฟองออกให้หมด และนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซ็ตตัว
  5. เตรียมวุ้นกะทิ ให้นำน้ำเปล่าและใส่ผงวุ้นลงไป พักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีเพื่อให้วุ้นอิ่มน้ำ ก่อนจะนำขึ้นตั้งไฟ
  6. ใส่วุ้นกะทิตามลงไป และใส่น้ำตาล และเกลือคนจนละลาย
  7. นำวุ้นกะทิที่ได้เทลงไปบนวุ้นใบเตยที่เซ็ตตัวแล้ว และนำไปพักในตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซ็ตตัว
  8. เมื่อวุ้นเซ็ตตัวดีแล้ว ก็ตัดเสิร์ฟได้เลย

3. คัสตาร์ดคาราเมล

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 3 คัสตาร์ดคาราเมล

คัสตาร์ดคาราเมลเมนูขนมไม่ใช้เตาอบที่ทำแสนง่าย แต่เป็นความอร่อยแบบลงตัวที่สุด ทั้งกลิ่นหอมหวานของคาราเมล และความอร่อยนุ่มละมุนของเนื้อคัสตาร์ด ใช้วัตถุดิบน้อยชิ้น และทำได้ง่ายมากก

ส่วนผสมคัสตาร์ดคาราเมล



คาราเมล

  1. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  2. น้ำเปล่า 100 กรัม


คัสตาร์ด

  1. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  2. นมสด 350 กรัม
  3. น้ำเปล่า 100 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำคัสตาร์ดคาราเมล

  1. ขั้นตอนแรกให้ตั้งหม้อด้วยไฟอ่อนๆ เติมน้ำตาลทรายลงไปโดยไม่ต้องคน จนกระทั่งสีของน้ำตาลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลจึงปิดเตา
  2. ใส่น้ำร้อนจัดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงไปในหม้อเพื่อปรับอุณหภูมิของคาราเมล พร้อมเขย่าหม้อเล็กน้อยให้น้ำเปล่าลงไปคลุกเคล้ากับตัวน้ำตาล หลังจากนั้นเทใส่พิมพ์ที่เตรียมเอาไว้ทันที เพียงเท่านี้ก็จะได้คาราเมลสุดหอมหวาน
  3. ใส่ไข่ไก่ 4 ฟอง ตามด้วย้ำตาลทราย 50 กรัม และกลิ่นวานิลลา คนเข้าให้กันจนได้ไข่สีเหลืองอ่อน
  4. เติมน้ำเปล่า และคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  5. ใส่นมสดที่นำไปอุ่นร้อนเบาๆ แล้วใส่เทตามลงไป พร้อมคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
  6. นำส่วนผสมทั้งหมดไปกรองเพื่อให้ได้คัสตาร์ดเนื้อเนียน และเทใส่พิมพ์ที่ใส่คาราเมลไว้แล้ว แนะนำให้เทผ่านตัวกรองอีกครั้งเพื่อให้ได้เนื้อเนียนที่สุด ถ้าหากคัสตาร์ดของเรามีฟองให้ตักออกได้เลย
  7. นำคัสตาร์ดพร้อมคาราเมลไปนึ่งประมาณ 30 นาที ด้วยไฟอ่อน
  8. เมื่อครบเวลาและคัสตาร์ดสุกดีแล้ว ให้นำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้คัสตาร์ดเซ็ตตัว ก่อนจะนำมาแซะออกจากพิมพ์พร้อมเสิร์ฟ

4. ทีรามิสุ

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 4 ทิรามิสุ

อีกหนึ่งเมนูขนมไม่ใช้เตาอบที่ถูกใจคนรักกาแฟแน่นอน เพราะมีรสชาติที่หวานละมุนกลมกล่อมทานง่าย สำหรับสูตรในวันนี้เราจะปรับสูตรเป็นการใช้แครกเกอร์ แทนเลดี้ฟิงเกอร์เพื่อให้ใช้ส่วนผสมที่ไม่ยาก

ส่วนผสมทีรามิสุ

  1. ผงกาแฟ 3 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำเปล่า 200 กรัม
  3. ขนมปังกรอบ 250 กรัม
  4. ไข่แดง 3 ฟอง
  5. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  6. ครีมชีส 250 กรัม
  7. วิปปิ้งครีม 250 กรัม
  8. ผงโกโก้
  9. กลิ่นรัม

วิธีทำทีรามิสุ

  1. นำกาแฟ 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำร้อน และพักทิ้งไว้จนเย็น
  2. นำไข่แดง ใส่น้ำตาลทราย และตีจนขึ้นฟู และมีสีขาวขึ้น
  3. ใส่ครีมชีส และกลิ่นรัมตามลงไป จากนั้นตะล่อมให้เข้ากัน
  4. แยกออกมาตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอด และค่อยๆ ทยอยตักบางส่วนลงไปตะล่อมให้เข้ากัน ก่อนจะใส่ที่เหลือจนหมดให้ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. นำบิสกิตลงไปจุ่มกับน้ำกาแฟ และวางซ้อนกันประมาณ 3 ชั้น และโรยผงโกโก้ ก่อนจะตักวิปปิ้งครีมลงไปเกลี่ยบนบิสกิตให้ทั่ว และทำแบบนี้ซ้ำกัน 3 ชั้น
  6. เมื่อทำครบชั้นบนสุดให้ปาดด้วยวิปครีมให้เรียบ และปิดฝา หรือใช้พลาสติกคลุมเอาไว้นำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้ทีรามิสุเซ็ตตัว
  7. เมื่อเซ็ตตัวดีแล้วนำออกจากพิมพ์ และโรยด้วยผงโกโก้ พร้อมตัดเสิร์ฟได้เลย

5. คอร์นเฟลกคาราเมล

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 5 คอร์นเฟลกคาราเมล

หากใครชอบเมนูขนมไม่ใช้เตาอบที่เป็นของว่างทานง่ายๆ กรุบกรอบหยิบทานได้เพลินไม่มีเบื่อ คอร์นเฟลกคาราเมลคือตอบโจทย์มาก เพราะเชื่อว่าหันมาอีกทีคือทานเพลินจนเกือบหมดกระปุกแล้วแน่นอน!

ส่วนผสมคอร์นเฟลกคาราเมล

  1. คอร์นเฟลก 300 กรัม (เลือกยี่ห้อได้ตามใจชอบ)
  2. เนยจืด 100 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 120 กรัม
  4. แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
  5. นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  6. นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำผึ้ง 30 กรัม
  8. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  9. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  10. ธัญพืชตามใจชอบ เช่น เม็ดมะม่วงอบสุก, อัลมอนด์, เมล็ดฟักทอง, ลูกเกด

วิธีทำคอร์นเฟลกคาราเมล

  1. ใส่เนยจืด น้ำตาลทราย นมข้นหวาน นมสด แป้งอเนกประสงค์ น้ำผึ้ง เกลือป่น และกลิ่นวานิลลาลงไปด้วยกัน ก่อนจะนำขึ้นตั้งไฟด้วยไฟกลาง พร้อมผสมให้ทั้งหมดเข้ากัน
  2. เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนไฟเริ่มเดือด จนรู้สึกว่าเหนียว และข้นขึ้น
  3. นำคอร์นเฟลกใส่ลงในชามเตรียมผสมที่มีใบใหญ่ ตามด้วยธัญพืชตามต้องการ
  4. ทยอยตักน้ำคาราเมลลงไปราดในชามผสมคอร์นเฟลก คลุกผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วตักคาราเมลที่เหลือราดลงไปให้ทั่วให้เข้ากัน จนรู้สึกว่าคาราเมลที่ราดไว้เริ่มแห้ง
  5. ปกติแล้วคอร์นเฟลกคาราเมลมักจะใส่เตาอบ แต่เมื่อเราไม่มีสามารถปรับเปลี่ยนได้ให้กลายเป็นขนมไม่ใช้เตาอบ ดังนั้นแนะนำให้แบ่งใส่ถ้วยก่อนจะนำไปอบด้วยไมโครเวฟ หรือหม้ออบลมร้อน เสร็จแล้วนำเอามาเทผึ่งเอาไว้เพื่อคลายความร้อน
  6. เมื่อหายร้อนแล้วนำใส่โหลที่ปิดมิดชิดเพื่อกันไม่ให้คอนเฟล็กโดนอากาศ จะได้กรอบอร่อยได้นาน

6. ฟักทองสังขยา

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 6 ฟักทองสังขยา

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบแบบขนมไทยที่แค่มีหม้อนึ่ง หม้อเดียวก็เอาอยู่ เป็นเมนูขนมที่น่าจะถูกใจทุกวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และยังเป็นเมนูของหวานที่ได้ทานเนื้อผลไม้ด้วย

ส่วนผสมฟักทองสังขยา

  1. ฟักทอง 2 ลูก
  2. หัวกะทิ 250 กรัม
  3. น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
  4. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  5. ไข่เป็ด 3 ฟอง
  6. ใบเตย 5 ใบ
  7. เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำฟักทองสังขยา

  1. เตรียมฟักทองด้วยการเจาะเป็นสี่เหลี่ยมหรือวงกลม พร้อมกับใช้ช้อนตัก และขูดเอาไส้ฟักทองออก ก่อนจะล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด และนำไปผึ่งให้แห้ง
  2. ใส่หัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ ไข่ไก่ ไข่เป็ด และเกลือลงไปทั้งหมด ก่อนจะใช้ใบเตยมาขยำให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
  3. ใช้กระชอนกรองน้ำสังขยาแล้วเทลงในลูกฟักทอง
  4. นำไปนึ่งในน้ำเดือด ก่อนจะใช้ไฟอ่อน โดยนึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง แต่แนะนำให้หมั่นเปิดฝา และเช็คฟักทองเรื่อยๆ ทุก 20 นาที
  5. เมื่อฟักทองสุกแล้ว หั่นเป็นชิ้นๆ ให้ทานง่าย เตรียมพร้อมเสิร์ฟ ทานแบบอุ่นๆ ยิ่งอร่อย หรือจะนำไปแช่ตู้เย็นก็ฟินไปอีกแบบ

7. บัวลอยไข่หวาน

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 7 บัวลอยไข่หวาน

เมนูขนมหวานของไทยที่ใครก็ต้องชอบ เป็นขนมไม่ใช้เตาอบที่เพราะมาพร้อมรสชาติที่หวานลงตัวของแป้งบัวลอยเหนียวหนึบ ตัดกับน้ำกะทิเค็มมันกำลังดี ยิ่งทานคู่กับไข่หวานตอนร้อนๆ ยิ่งฟิน

ส่วนผสมบัวลอยไข่หวาน

  1. แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
  2. น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
  3. กะทิ 200 กรัม
  4. น้ำตาลมะพร้าว 20 กรัม
  5. น้ำตาลทราย 30 กรัม
  6. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  7. ใบเตย
  8. สีผสมอาหาร

วิธีทำบัวลอยไข่หวาน

  1. นำแป้งข้าวเหนียวใส่ลงในชามผสม ก่อนจะใส่น้ำเปล่าและนวดกับแป้งจนจับตัวเป็นก้อน และใส่สีผสมอาหารลงไปเพื่อให้ได้แป้งสีสวยน่ารับประทาน
  2. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมเม็ดเล็กๆ
  3. นำแป้งไปต้มในน้ำเดือด และรอจนแป้งลอยขึ้นมา จึงตักใส่ชามที่มีน้ำอุณหภูมิห้องเพื่อพักแป้งเอาไว้
  4. นำหัวกะทิใส่หม้อ พร้อมใส่น้ำเปลาตามลงไปและตั้งไฟอ่อนๆ ก่อนจะใส่น้ำตาลมะพร้าว และเคี่ยวไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้กะทิไหม้ จากนั้นใส่เกลือ พร้อมรอให้กะทิเดือดอ่อนๆ แล้วไส่ไข่ลงไป และต้มจนสุก แล้วปิดไฟ
  5. ตักแป้งบัวลอยใส่ถ้วย และราดน้ำกะทิ พร้อมไข่ตามลงไป แล้วยกเสิร์ฟได้เลย

8. บลูเบอร์รี่ชีสพาย

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 8 บลูเบอร์รี่ชีสพาย

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบยอดฮิตที่รสชาติหวาน มัน เปรี้ยว กรอบอร่อยในคำเดียว โดยนอกจากจะไม่ใช้เตาอบแล้ว ยังมีวัตถุดิบไม่เยอะ และขั้นตอนน้อยมาก ที่สำคัญคือทำพร้อมกันๆ ได้หลายชิ้นเก็บไว้ทานเป็นของว่างได้หลายวัน

ส่วนผสมบลูเบอร์รี่ชีสพาย

  1. แครกเกอร์ 250 กรัม
  2. เนยจืด 150 กรัม
  3. ครีมชีส 350 กรัม
  4. นมข้นหวาน 70 กรัม
  5. น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
  6. วิปปิ้งครีม 4 ช้อนโต๊ะ
  7. บลูเบอร์รี่กระป๋อง 500 กรัม

วิธีทำบลูเบอร์รี่ชีสพาย

  1. นำแครกเกอร์ไปบด หรือปั่นจนละเอียด หลังจากนั้นให้ใส่เนยจืดที่ละลายแล้วลงไปผสมกับแครกเกอร์ คนให้เข้ากัน และกรุลงในถ้วยโดยไม่จำเป็นต้องแน่นจนเกินไป พร้อมนำไปแช่ในตู้เย็นไว้สัก 2 ชั่วโมงเพื่อให้แครกเกอร์เซ็ตตัว
  2. นำครีมชีส นมข้นหวาน น้ำมะนาว วิปครีม มาตีพร้อมกันด้วยตะกร้อมือ หรือหากใครมีเครื่องตีให้ตีด้วยความเร็วปานกลาง ประมาณ 1 นาที
  3. นำมาเกลี่ยให้ทั่วบนหน้าแคกเกอร์ และนำไปแช่ตู้เย็นในช่องฟรีซต่อ ประมาณ 2 ชั่วโมง
  4. นำออกจากตู้เย็นมาราดหน้าด้วยบลูเบอร์รี่กระป๋องได้ตามใจชอบ พร้อมนำเสิร์ฟได้เลย

9. แพนเค้กกล้วยหอม

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 9 แพนเค้กกล้วยหอม

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบที่ทำง่ายๆ จะทานเป็นมื้อเช้า หรือทานเป็นขนมหวานของว่างระหว่างวันคู่กับผลไม้สด ตามใจชอบก็ยิ่งอร่อย ที่สำคัญสำหรับสูตรในวันนี้จะเป็นสูตรที่ไม่ใส่แป้ง ถูกใจคนรักษาหุ่นที่อยากทานของหวานแน่นอน

ส่วนผสมแพนเค้กกล้วยหอม

  1. ไข่ไก่  2 ฟอง
  2. ​กล้วยหอมบดละเอียด 1 ลูก
  3. ​กล้วยหอมฝานบาง 1 ลูก
  4. ​เนยจืด
  5. น้ำเชื่อม หรือไซรัปตามชอบ
  6. ผลไม้ตามใจชอบ

วิธีทำแพนเค้กกล้วยหอม

  1. นำไข่ไก่ตีผสมให้เข้ากัน ก่อนจะใส่กล้วยหอมบดลงไปผสมให้ดูเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. เพื่อเพิ่มรสชาติให้ใส่กล้วยหอมฝานบางๆ ลงไปผสมด้วยให้เข้ากัน
  3. เตรียมทอด โดยให้ใส่เนยลงไปในกระทะ ก่อนจะค่อยๆ ตักแพนเค้กลง รอจนสุกทั้งสองด้าน จึงนำใส่จาน 
  4. ราดน้ำเชื่อม หรือไซรัปรสชาติตามที่ชอบ จับคู่กับผลไม้สดต่างๆ เช่นสตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ กี่วี่ ได้ตามใจชอบเพื่อเพิ่มรสชาติ และความสดชื่นให้กับแพนเค้กยิ่งขึ้น

10. พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน

เมนูขนมไม่ใช้เตาอบเมนูที่ 10 พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน

เมนูสุดท้ายสำหรับขนมไม่ใช้เตาอบ แต่อร่อยได้ไม่แพ้กันเลย นี่คือพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนที่จะให้เนื้อสัมผัสนุ่มนิ่มน่ารับประทาน พร้อมกับรสสัมผัสของมะพร้าวอ่อนที่กรอบอร่อยตัดกัน บวกกับกลิ่นหอมของมะพร้าวที่หอมจนวางช้อนไม่ลง

ส่วนผสมพุดดิ้งมะพร้าวอ่อน

  1. ผงวุ้นตรานางเงือก 2 ช้อนชา
  2. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  3. กะทิ 130 กรัม
  4. น้ำเปล่า 350 กรัม
  5. น้ำมะพร้าว 350 กรัม
  6. เนื้อมะพร้าวอ่อน 200 กรัม
  7. นมจืด 30 มิลลิลิตร
  8. นมข้นจืด 20 มิลลิตร
  9. นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำพุดดิ้งมะพร้าวอ่อน

  1. นำผงวุ้นแช่ในน้ำเปล่าประมาณ 15 นาทีเพื่อให้วุ้นอิ่มน้ำ และละลายดี
  2. ก่อนจะนำขึ้นตั้งไฟด้วยไฟกลาง และใส่น้ำตาลทรายตามลงไปคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นจึงใส่น้ำมะพร้าว คนให้เข้ากันไปเรื่อยๆ เพื่อให้วุ้นและน้ำตาลทรายละลายดี
  3. เติมน้ำกะทิเพิ่มลงไปในหม้อคนให้เข้ากัน และจึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป
  4. ตักน้ำวุ้นใส่ในพิมพ์ และนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซ็ตตัว
  5. เตรียมทำน้ำราดหน้าพุดดิ้ง ให้ใส่นมสด นมข้นจืด และนมข้นหวานเข้าด้วยกัน พร้อมคนให้
    ส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  6. นำพุดดิ้งที่แช่เย็นจนเซ็ตตัวแล้วออกมา พร้อมตักน้ำราดลงไปบนพุดดิ้ง จัดเสิร์ฟได้เลย

สรุปท้ายบทความ

และทั้งหมดนี้คือ 10 ไอเดียขนมไม่ใช้เตาอบ ที่ถูกใจคนทานไม่ต่างจากเมนูขนมอบแบบอื่นๆ เลย โดยหยิบขึ้นมาทำได้ง่าย เพราะเป็นเมนูขนมไม่ใช้เตาอบ ทำได้สะดวกแน่นอน ไม่ว่าจะอยู่คอนโดหรืออยู่บ้านที่มีครัวเล็กๆ ก็ทำมารับประทานทานได้เหมือนกันเลยค่ะ 

ebook-banner-1